จ๊อกกี้ม้าคาวบอยสมิหลาสงขลา รายได้หดหายกว่า 50 % จากพิษโควิด-19 ซ้ำระลอกใหม่แถมมรสุมคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวน้อยลง

จ๊อกกี้ม้าคาวบอยสมิหลาสงขลา รายได้หดหายกว่า 50 % จากพิษโควิด-19 ซ้ำระลอกใหม่แถมมรสุมคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวน้อยลง

จากเมื่อปีที่แล้ว 2563 ได้เกิดการแพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรน่า หรือที่เรียกว่า โควิด-19 อาชีพหลายๆอาชีพในประเทศก็ขั้นวิกฤติ ยิ่งเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักในการหมุนเวียนขับเคลื่อนในประเทศ แม้กระทั่งจังหวัดสงขลาเอง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นเมืองประตูด่าน ผ่านเข้า-ออกในหลายๆจังหวัดและหลายๆเป็นประเทศ เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 การปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต พวกพ่อค้าและแม่ค้าตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆก็เปลี่ยนไป

จ๊อกกี้ม้าคาวบอยสมิหลาสงขลา รายได้หดหายกว่า 50 % จากพิษโควิด-19 ซ้ำระลอกใหม่แถมมรสุมคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวน้อยลง

ดังเช่น อาชีพที่เป็นจุดเรียกนักท่องเที่ยวของหาดสมิหลาสงขลา คือ  จ๊อกกี้ม้าคาวบอยสมิหลาสงขลา จากที่สวท. สงขลาได้สัมภาษณ์ นายเกริก ถาวรบุตร หรือเต้ อายุ 50 ปี ขี่ม้าชื่อซัดดัม ที่นำม้าคู่ชีพออกมาบริการนักท่องเที่ยว ในช่วงนี้สภาพอากาศทะเลมีคลื่นลมแรงพัดเข้ามาฝั่งอยู่ตลอดเวลาและมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการใช้บริการม้าคาวบอยเป็นอย่างมากส่งผลกระทบถึงรายได้ “จ๊อกกี้” เนื่องจากนักท่องเที่ยวลดน้อยลง รายได้ลดลงกว่า 50% ที่ผ่านมารายได้ก็อยู่ที่ ประมาณ 800-1,000 กว่าบาทต่อวัน แต่วันนี้ลดเหลือ 300-400 บาท  รายได้แค่นี้ไม่พอที่จะเลี้ยงม้า และ เลี้ยงตนเองเหมือนอย่างก่อน

ทั้งนี้ ม้าคาวบอย สมิหลาก็ยังออกมาให้บริการ เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวและเลี้ยงม้า เพราะ คนต้องพึ่งม้าและม้าก็ต้องพึ่งคน ในแต่ละวันจะมีม้าคาวบอยออกมาให้บริการเพียง 5-6 ตัวเท่านั้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยว ลดน้อยลง จึงอยากประชาสัมพันธ์ประชาชนและนักท่องเที่ยว มาเที่ยวแบบวิถี New Normal ช่วยเหลืออาชีพจ๊อกกี้ม้าคาวบอยสมิหลาสงขลา และน้องม้าที่น่ารักๆ ให้อยู่คู่กับจังหวัดสงขลาต่อไป

จ๊อกกี้ม้าคาวบอยสมิหลาสงขลา รายได้หดหายกว่า 50 % จากพิษโควิด-19 ซ้ำระลอกใหม่แถมมรสุมคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวน้อยลง
จ๊อกกี้ม้าคาวบอยสมิหลาสงขลา รายได้หดหายกว่า 50 % จากพิษโควิด-19 ซ้ำระลอกใหม่แถมมรสุมคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวน้อยลง

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิง : สวท.สงขลา

Next Post

ผู้ว่าฯสงขลา สั่งการเจ้าหน้าที่เข้มมาตรการคัดกรอง หลังพบผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศผ่านด่านพรมแดนสะเดา รวมถึงป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

Wed Jan 20 , 2021
ผู้ว่าฯสงขลา สั่งการเจ้าหน้าที่เข้มมาตรการคัดกรอง หลังพบผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศผ่านด่านพรมแดนสะเดา รวมถึงป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย   วันนี้ (20 ม.ค. 64) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งใน และต่างประเทศ ได้ส่งผลกระทบทั้งในด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และการดำรงชีวิตของประชาชน ซึ่งยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่า สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสงขลา พบผู้ป่วยเพิ่มรวม 5 ราย เป็นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย ทางด่านพรมแดนสะเดาจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นนักโทษที่เพิ่งพ้นโทษออกมา ทำให้ขณะนี้ จังหวัดสงขลา มียอดผู้ป่วยสะสม 7 ราย แยกเป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 2 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 5 ราย นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา  จึงสั่งการคุมเข้มพื้นที่เข้า-ออกด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งในส่วนของกลุ่มคนขับรถขนส่งสินค้าที่เข้า-ออก ทั้ง 2 ประเทศ และพื้นที่ตามรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่เป็นช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว รวมถึงคนไทยที่อาจจะลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ขอความร่วมมือประชาชน หากมีประวัติการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการพบผู้ติดเชื้อ หรือ “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” ขอให้กักกันตัว และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่นเป็นเวลา 14 วัน หากพบว่ามีอาการผิดปกติให้ไปพบแพทย์และให้ข้อมูลที่แท้จริงกับแพทย์  HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : สวท.สงขลา Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
ผู้ว่าฯ สงขลา กำชับเจ้าหน้าที่เข้มข้นมาตรการคัดกรอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคCOVID - 19 อย่างต่อเนื่อ