ผบ.ตร.เริ่มทดลองการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ใช้กำลังตำรวจ 12 นาย พร้อมมาตรฐานในการปฏิบัติ

ผบ.ตร.เริ่มทดลองการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ใช้กำลังตำรวจ 12 นาย พร้อมมาตรฐานในการปฏิบัติ

วันที่ 4 พ.ย. 63 เวลา 22.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภัคพงศ์พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ได้เดินทาง มาตรวจการตั้งจุดตรวจทดลอง โดยมอบหมายให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 มี พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ควบคุมการปฏิบัติ โดยการตั้งจุดตรวจทดลองวันนี้จะเป็นการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ทำการตั้งจุด ตรวจบริเวณหน้าสถานีตำรวจ ซึ่งมีแนวทางการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้

1. หลักการและแนวทางในการตั้งจุดตรวจ

1.1 การตั้งจุดตรวจต้องได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ระดับ ผบก.ขึ้นไป

1.2 การตั้งจุดตรวจต้องมีแผนการปฏิบัติที่ขัดเจน

1.3 จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องมีป่ายแสดงถึงมาตรฐานการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตั้งไว้ตรงบริเวณใกล้โต๊ะตรวจวัดฯ ในลักษณะที่ผู้รับการตรวจวัดฯ มองเห็นได้ชัดเจน

1.4 การกำหนดสถานที่ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ต้องกำหนดมาจาก

ผบ.ตร.เริ่มทดลองการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ใช้กำลังตำรวจ 12 นาย พร้อมมาตรฐานในการปฏิบัติ

(1) ข้อมูลผู้กระทำความผิดเมาแล้วขับในเขตพื้นที่

(2) สถิติการเกิดอุบัติเหตุ สาเหตุมาจากเมาแล้วขับ

(3) สภาพการจราจร ความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนและเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสำคัญ

(4) ความสะดวก มีที่จอดยานพาหนะของผู้ขับขี่ มีไฟฟ้าสำหรับใช้ที่จุดตรวจฯ เช่น สำหรับกล้องวงจรปิด สัญญาณไฟวับวาบ และเครื่องพิมพ์ผลการตรวจ เป็นต้น

1.5 จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องมีแผงกั้นที่มีเครื่องหมายการจราจรว่า “หยุดตรวจ” โดยให้เป็นไปตามมาตรฐานที่จุดตรวจ และในเวลากลางคืนจะต้องมีแสงไฟส่องสว่างให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตรและก่อนถึงจุดตรวจให้มีแผ่นป้ายแสดงยศ ชื่อ นามสกุล และตำแหน่ง ของหัวหน้าต่านตรวจ หรือจุดตรวจดังกล่าว

1.6 การสื่อสารกับประชาชนในการบังคับใช้กฎหมาย ต้องมีการอธิบายข้อกฎหมายให้ผู้กระทำผิดเข้าใจ ข้อกล่าวหา โดยใช้กิริยาวาจาที่สุภาพ

1.7 การตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ให้ปฏิบัติตามมาตรการการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจและจุดสกัด ตามที่ ตร.ได้เคยสั่งการไว้อย่างเคร่งครัด

ผบ.ตร.เริ่มทดลองการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ใช้กำลังตำรวจ 12 นาย พร้อมมาตรฐานในการปฏิบัติ

2. การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้

2.1 บันทึกข้อมูลการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามแผนการปฏิบัติ ลงในระบบการจัดทำแผนการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร (Police Traffic Checkpoint Control)

2.2 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ทุกนาย บันทึกการปฏิบัติหน้าที่ด้วยกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหว เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการปฏิบัติหน้าที่ และเพื่อยืนยันหลักความโปร่งใสการตรวจสอบได้

2.3  การตรวจวัดแอลกอฮอล์ ให้มีการตรวจเบื้องต้นและแบบยืนยันผล และต้องบันทึกการตรวจทั้งสองแบบด้วยกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหว แบบดิจิตอลชนิดใส่ซิมเน็ต เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสามารถตรวจสอบได้แบบ real time

3. แนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกันการทุจริต

3.1 จัดโต๊ะสำหรับตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบยืนยันผลให้มีแสงสว่างมากพอ เป็นสถานที่เปิดเผย ป้องกันความเคลือบแคลงสงสัยจากประชาชน

3.2 มีป้ายไว้ตรงบริเวณจุดตรวจวัดฯ มีข้อความว่า “จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ สน./สภ… มีการ

บันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบดิจิตอลไว้เป็นหลักฐาน เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นมาตรฐานสากล”

3.3 เมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติแล้ว ให้หัวหน้าจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ รายงานผลการปฏิบัติเป็นลาย

ลักษณ์อักษรเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น

3.4 ให้หัวหน้าสถานีตรวจสอบข้อมูลการตรวจที่พิมพ์จากเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตามข้อ 3.3 หาก

พบข้อมูลผิดปกติ ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบต่อไป

ผบ.ตร.เริ่มทดลองการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ใช้กำลังตำรวจ 12 นาย พร้อมมาตรฐานในการปฏิบัติ

3.5 ให้หัวหน้าสถานีตำรวจจัดทำระบบจัดเก็บไฟล์ภาพเคลื่อนไหวแบบดิจิตอลการตรวจวัดแอลกอฮอล์

เพื่อป้องกันการร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจวัดฯ ในภายหลัง

3.6 จัดให้มีแผ่นป้ายแสดงข้อความว่า “หากพบเจ้าหน้าที่ทุจริต หรือประพฤติมิชอบให้แจ้งผู้บังคับ

การ โทร.(ให้ใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือของ ผบก.ไว้) หรือ แจ้งร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ สายด่วน หมายเลข 1599″ ข้อความดังกล่าวข้างต้นให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 15 เมตร

เมื่อคณะได้ทำการตรวจสอบการตั้งจุดตรวจทดลองในครั้งนี้แล้ว จะทำการพิจารณาเพื่อสรุปข้อมูลว่าการ

ตั้งจุดตรวจดังกล่าว เป็นไปตามแนวทางของ ผบ.ตร.ที่ได้มอบนโยบายไว้หรือไม่ ซึ่งหากเป็นไปตามแนวทาง จะได้นำเสนอ เพื่อกำหนดเป็นแนวทางในการตั้งจุดตรวจ เพื่อให้ทุกหน่วยในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติ

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิง : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Next Post

ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งสงขลา เผยการเปิดรับสมัครเลือกตั้งอบจ. ต้องเป็นไปตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติ

Wed Nov 4 , 2020
ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งสงขลา เผยการเปิดรับสมัครเลือกตั้งอบจ. ต้องเป็นไปตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติ วันที่ 3 พ.ย. 63 บริเวณสถานที่การเลือกตั้งท้องถิ่นศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งสงขลา เผยถึงหนังสือสำนักงานคณะกรรการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา ตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์กรบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งกำหนดเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563 และรับสมัครในวันที่ 2 – 6 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. โดยในการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขลา และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 วันนี้ ปรากฏว่ามีผู้มาสมัครเพิ่มทั้งหมด จำนวน 5 ราย แบ่งเป็นผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จำนวน 3 ราย และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จำนวน 2 ราย […]
ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งสงขลา เผยการเปิดรับสมัครเลือกตั้งอบจ. ต้องเป็นไปตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติ