สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ แต่มีวันหยุดน้อย วันนี้แอดมีพิกัดมาแนะนำกับ ทริปสิงคโปร์ 3 วัน 2 คือ ทริปใกล้ๆ แต่เที่ยวได้แบบปังๆ ใช้เวลาเดินทางจากหาดใหญ่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง และที่พิเศษ ประเทศสิงคโปร์เต็มไปด้วยที่เที่ยวน่าสนใจ ทั้งสถาปัตยกรรม แหล่งช้อปปิ้ง สวนสนุก และแหล่งอาหารน่ากินๆ แถมยังเดินทางง่าย สะดวก ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือว่ารถบัส ที่วิ่งทั้งเมือง
.
วันนี้แอดจะมาแนะนำวิธีจองตั๋วเครื่องบินจากหาดใหญไปเที่ยวสิงคโปร์ ง่ายๆเพียงแค่เปิดแอพ Traveloka กดเลือกประเทศที่คุณอยากไป จากนั้นทางแอพจะเปรียบเทียบราคามาให้เรียบเรียบร้อย ไม่ต้องนั่งเปรียบเทียบราคาให้วุ่นวายเลย สะดวกสุดๆ ราคายังโดนใจ ถูกกว่าเจ้าไหนๆ ยิ่งถ้าช่วงไหนๆ ที่มีโปรตั๋วเครื่องบินลดราคา ก็จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีก สามารถกดจองได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Hat-Yai-Singapore.HDY.SIN

แพลนเที่ยววันที่ 1
พิพิธภัณฑ์ศิลปะและวิทยาศาสตร์ (ArtScience Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ที่รวบรวมงานศิลปะ และวิทยาศาสตร์มาเข้าไว้ด้วยกัน เหมือนกับจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าเบื่อ แต่อันที่จริงมีส่วนจัดแสดงที่หลากหลาย รับรองว่าคุณจะเพลิดเพลินเมื่อเข้าไปในนั้นแน่นอน ส่วนจัดแสดงจะมีทั้งแบบชั่วคราว และถาวร หากใครอยากแวะมาเที่ยว แนะนำให้เช็คตารางจัดแสดงซะก่อน บางทีอาจจะมีงานจัดแสดงที่คุณสนใจ ก็จะได้ซื้อบัตรเข้าไปทีเดียว เพราะในแต่ละส่วนก็จะใช้ตั๋วคนละใบเข้าชม ด้านในจะมีส่วนให้ถ่ายรูปสวยๆ มีกิจกรรมให้ทำเพียบ เหมาะกับการไปเที่ยวทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่รับรองว่าเอ็นจอยแน่นอน
วิธีการเดินทาง: MRT ลงสถานี Bayfront ทางออก C หรือ D ก็ได้

จากนั้นก็ไปต่อกันที่ มารีน่า เบย์แซนด์ (Marina Bay Sand) เพราะอยู่ใกล้กันมาก เดินไม่กี่นาทีก็ถึง เอาจริงๆ คืออยู่ข้างกันเลยแหละ สำหรับมารีน่า เบย์แซนด์ นั้นโด่งดังมาก เพราะเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ แม้จะถูกสร้างขึ้นได้ไม่นาน แต่ก็กลายเป็นภาพจำไปซะแล้ว ซึ่งอันที่จริงมารีน่า เบย์แซนด์ นั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจ มีสถาปัตยกรรมเป็นเหมือนเรือ ด้านในจะมีทั้งส่วนที่เป็นโรงแรม สระว่ายน้ำด้านบน รูฟท็อป ห้างสรรพสินค้า และคาสิโน ใครที่ชอบช้อปปิ้งแบรนด์เนมแล้วมาที่นี่ รับรองจะไม่ผิดหวัง เพราะมีร้านแบรนด์เนมหลายร้านให้เลือก หรือจะแวะมาถ่ายรูปสวยๆ หรือชมวิวอ่าวมารีน่ายามค่ำคืนก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลย
วิธีการเดินทาง: MRT ลงสถานี Bayfront ทางออก C หรือ D ก็ได้

“การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay)” เป็นส่วนที่ไม่เหมือนสวนทั่วไป ภายในสวน จะแบ่งออกเป็นธีมต่างๆ ด้านในมีทั้งสวนดอกไม้ พืชพรรณท้องถิ่น และพืชพันธุ์แปลกๆ ที่หาชมได้ยาก ภายในสวนจะมีทางเดินที่ให้เดินชมดอกไม้ และถ่ายรูปกันแบบสุดชิลล์ ส่วนที่น่าสนใจจะมีทั้งโดมกระจก ที่ต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อเข้าไปชม และทางเดินบนต้นไม้ยักษ์ หรือ Giant Tree ที่มีทั้งหมด 16 ต้นตั้งอยู่กลางแจ้ง ตอนกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟประดับประดาสวยงามอย่าบอกใคร อยากใช้เวลาทั้งวันเที่ยวให้คุ้มค่า แนะนำให้มาเที่ยวที่การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์
วิธีการเดินทาง: MRT ลงสถานี Bayfront ทางออก B

ขอขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.icantstoptravel.com/

แพลนเที่ยววันที่ 2 ไชน่า ทาวน์ (China Town) เริ่มต้นของวันด้วยการไปหาของกินอร่อยๆ เติมความสุขกันให้พุงกางกันที่ “ไชน่า ทาวน์ (China Town)” เพราะว่าบริเวณนี้แหล่งร้านอาหารคือเยอะมาก ที่สำคัญคือสามารถเดินไปศูนย์อาหารชื่อดัง ที่มีข้าวมันไก่ร้านอร่อยอยู่ก็คือ Maxwell Food Centre ไม่ใช่แค่อร่อย แต่ราคายังไม่แพงมากจนเกินไป ใครที่มาเที่ยวสิงคโปร์แล้วไม่รู้จะจองที่พักแถวไหน เราก็ขอแนะนำให้มาจองแถวย่านไชน่าทาวน์อีกเช่นเดียวกัน เพราะที่พักเยอะมาก แถมยังอยู่ใกล้ MRT เดินทางไปไหนก็สะดวก เป็นหนึ่งในแหล่งที่เที่ยวถ้าหากอยากกินอาหารอร่อย หาซื้อของฝาก หรือมาไหว้พระ ก็ตรงดิ่งมาไชน่าทาวน์กันเลย
วิธีการเดินทาง: MRT Chinatown ได้ทุกทางออก

จากนั้นก็แวะไปที่ “วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple)” หนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิตย่านไชน่าทาวน์ ซึ่งวัดนี้งดงามทั้งในตอนกลางวัน และกลางคืน เพราะในช่วงกลางคืนจะเปิดไฟสว่างไสว นอกเหนือจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามของวัดพระธาตุเขี้ยวแก้วแล้ว ที่แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระทันตธาตุ (ฟัน) ของพระพุทธเจ้า บางวันก็จะมีพระมาไหว้พระ สวดมนต์ ทำพิธิที่นี่ มีชั้นทั้งหมด 9 ชั้น ซึ่งถือว่าเป็นวัดพุทธในสิงคโปร์ที่ใหญ่มากวัดหนึ่ง ใครว่างก็แวะมากันได้ จะมีส่วนที่เป็นชั้นของพิพิธภัณฑ์ด้วย แต่แนะนำให้เผื่อเวลาเพราะใช้เวลาประมาณหนึ่ง ถึงจะเดินชมหมดทุกส่วน
วิธีการเดินทาง: MRT Chinatown หรือ MRT Maxwell

จากนั้นก็ไปเที่ยวหอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ (National Gallery Singapore) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มาเที่ยวกันได้ง่าย เพราะแค่เดินทางด้วย MRT มาลงที่สถานี City Hall โดยภายในพิพิธภัณฑ์นี้จะมีการจัดแสดงงานศิลปะเอาไว้มากกว่า 8,000 ชิ้น โดยงานศิลปะเหล่านั้น ถือว่าเป็นงานมรดกอันล้ำค่าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีทั้งศิลปะแบบสมัยเก่า และสมัยใหม่ผสมกัน ส่วนที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ ก็คืออาคารทรงโคโลเนียล ในอดีตเป็นที่ทำการศาลฎีกา มีอายุมากกว่า 100 ปีมาแล้วด้วยกัน แค่ได้มาเดินชมงานศิลปะ ถูกใจสายอาร์ทอย่างแน่นอน ใครอยากเดินชมพิพิธภัณฑ์ให้ทั่ว แนะนำว่าให้ไปแต่เช้าเลย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทั้งใหม่ และใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์แห่งหนึ่ง
วิธีการเดินทาง: MRT City Hall ทางออก B

พิพิธภัณท์แห่งชาติสิงคโปร์ (Singapore National Museum)อยู่ไม่ไกลจากหอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ มากนัก ซึ่งที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่ทำให้คุณรู้จักเมือง สิงคโปร์ได้มากขึ้นกว่าที่เคย เพราะพิพิธภัณฑ์นี้จะมีการแสดงประวัติศาสตร์ของชาติสิงคโปร์มาตั้งแต่เริ่มแรก ให้คุณได้ศึกษาประวัติศาสตร์ และเรียนรู้แหล่งที่มาของประเทศนี้ ซึ่งข้อมูลของที่นี่จะมีการเล่าถึงความเป็นมาอย่างละเอียด รับรองว่าทั้งสนุก น่าสนใจ และได้ความรู้ไปพร้อมๆ กันอย่างแน่นอน นอกเหนือจากส่วนที่จัดแสดงเรื่องประวัติความเป็นมาแล้วนั้น ยังมีส่วนที่จัดแสดงงานศิลปะอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสิงคโปร์ใกล้ MRT ที่เหมาะกับที่เที่ยวทุกแนว
วิธีการเดินทาง: MRT สถานี Dhoby Ghaut หรือว่า Bencoolen

สวนป้อมปราการ แคนนิง (Fort Canning Park) สถานที่ถ่ายรูปชิคๆ เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางไปได้ง่ายด้วย MRT มีจุดดึงดูดใจด้วยอุโมงค์ต้นไม้ ถ้าหากไปช่วงวันหยุดก็อาจจะต้องรอต่อแถวถ่ายรูปกันนานหน่อย แต่รับรองเลยว่าคุ้มค่าแก่การรอ เพราะว่าสวยจริง เมื่อถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว ก็สามารถเดินเล่นกันต่อที่สวนสาธารณะนี้ได้เลย เพราะร่มรื่นมาก แถมอยู่ใจกลางเมืองแบบนี้ เที่ยวเสร็จก็เดินไปขึ้น MRT ไปเที่ยวต่อที่อื่นได้อีก ถ้าคุณแวะมาสิงคโปร์แล้วอยากได้รูปสวยกลับไป ก็อยากแนะนำให้มาที่นี่เลย รับรองถูกใจแน่นอน
วิธีการเดินทาง: MRT สถานี Fort Canning Station ทางออก B

สิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวสิงคโปร์ที่มองเห็นวิวสิงคโปร์ได้แบบ 360 องศาเลยนะ เพราะว่าสิงคโปร์ ฟลายเออร์ จะเป็นชิงช้าขนาดยักษ์ให้คุณได้ขึ้นไปชมวิวโดยรอบ มองเห็นแลนด์มาร์คหลักของสิงคโปร์ได้หลายอย่าง อาทิ การ์เด้นท์ บาย เดอะ เบย์ หรือว่าตึกมารีน่า เบย์ แซนด์ ให้คุณได้เห็นวิวสิงคโปร์แบบพาโนราม่า เปิดประสบการ์ใหม่ในการชมวิว อยากได้วิวกลางวันก็มาช่วงกลางวัน หรือใครอยากชมวิวยามค่ำคืน ก็มาในช่วงกลางคืนได้ เพราะเปิดให้บริการตั้งแต่ 15.00 – 22.00 น. แนะนำให้ซื้อตั๋วออนไลน์มาก่อน ถ้าหากคุณไม่อยากต่อคิว
วิธีการเดินทาง: MRT สถานี Promenade Station ทางออก A

แพลนเที่ยววันที่ 3
เริ่มต้นทริปกับการไปมัสยิดสุลต่าน (Sultan Mosque) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของสิงคโปร์ อันเป็นมัสยิดที่เก่าแก่ และมีความสวยงามมาก ด้วยความที่ประเทศสิงคโปร์มีผู้คนหลายสัญชาติ จึงมีทั้งวัดพุทธ วัดฮินดู และมัสยิด รวมอยู่ด้วยกัน โดยมัสยิดแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ 1824 โดดเด่นด้วยมัสยิดสีขาว และโดมสีทองขนาดใหญ่ ด้านในเป็นอาคารชั้นเดียวที่มีทรงสูง ใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ถ้าใครยังไม่มีแพลน ก็แวะมาเที่ยวกันได้
วิธีการเดินทาง: MRT สถานี Bugis Station ทางออก B

ฮาจิ เลน (Haji Lane) อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวสิงคโปร์ที่น่าสนใจก็คือ ตรอกฮาจิ เลน เป็นแหล่งย่านฮิปของสิงคโปร์ ที่หลายคนชอบมาเดินเล่น หรือว่าถ่ายรูป เพราะบริเวณฮาจิ เลนนี้ จะสีสันสดใสมากมาย พร้อมกับร้านรวงที่ตั้งอยู่โดยรอบ หรือถ้ามาในช่วงกลางคืนก็จะมีบาร์ หรือว่าร้านอาหารให้นั่งชิลล์ได้ด้วย หลังจากที่ไปเยือนมัสยิดสุลต่านมาแล้ว ก็อยากให้แวะมาเที่ยวที่ฮาจิ เลนด้วยเหมือนกัน เพราะอยู่ไม่ไกลกันมาก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ฮิปๆ ของสิงคโปร์ เหมาะกับสายถ่ายรูป แวะมาเก็บรูปสวยๆ ที่นี่กัน
วิธีการเดินทาง: MRT สถานี Bugis Station ทางออก B

สำหรับใครที่กำลังจะไปสิงค์โปร์ แต่ยังไม่มีแพลน แอดแนะนำให้ไปปักหมุดพิกัดตามแอดไ้เลย เดินทางสะดวก ติด MRT ชาวหาดใหญ่จะพลาดได้ไง
ขอขอบคุณรูปจาก สายชิลล์

แจกทริปเที่ยว 3 วัน 2 คืน หาดใหญ่ – สิงคโปร์ ติด MRT

Next Post

อบจ.สงขลา ติดตั้งสะพานเบย์ลีย์ชั่วคราว เพื่อซ่อมถนนสายบ้านควนขี้แรด สามารถใช้งานได้ภายในวันที่ 27 ธ.ค. 65