มาตรการดำเนินการพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการ และจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน

มาตรการดำเนินการพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการ และจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน

 

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค. ออกมาตรการดำเนินการพื้นที่ควบคุมสูงสุด สำหรับควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ

ออกมาตรการดำเนินการพื้นที่ควบคุมสูงสุด มี 2 ขั้นตอนดังนี้:

    ขั้นที่ 1 จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการ ปิดสถานที่สุ่มเสี่ยง ,จับกุมผู้มั่วสุมผิดกฎหมาย ,ห้ามรวมกลุ่มคน ,ปิดโรงเรียน ,สั่งให้มีการเรียนการสอนออนไลน์ ,ไม่เดินทางข้ามจังหวัด ,Work from Home ,ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก โดยเริ่มใช้ในวันที่  4 มกราคม 2564 เวลา 06.00 น. ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 06.00 น.

    ขั้นที่ 2  จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานที่เพิ่มมากขึ้น ,ปิดสถานที่เสี่ยง ,เร่งค้นหาจับกุมบุคคล มั่วสุมผิดกฎหมาย ,งดกิจกรรมรวมกลุ่ม ,เพิ่มความเข้มข้นควบคุมการเดินทางข้ามจังหวัด สถานศึกษายังคงหยุดเรียน ,เร่งรัดทำงานรูปแบบ Work from Home ,ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง ,จำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน ช่วงเวลา ตามที่ นรม./ ผอ.ศบค. เห็นชอบ ในกรอบที่ ศบค.กำหนด

มาตรการดำเนินการพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการ และจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน

 
ซึ่งมีพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด
ตาก,นนทบุรี,ปทุมธานี,พระนครศรีอยุธยา,สระแก้ว,ลพบุรี,สิงห์บุรี,อ่างทอง,นครนายก,
กาญจนบุรี,นครปฐม,ราชบุรี,สุพรรณบุรี,ประจวบคีรีขันธ์,เพชรบุรี,สมุทรสงคราม,สมุทรสาคร,
ฉะเชิงเทรา,ปราจีนบุรี,สระบุรี,สมุทรปราการ,จันทบุรี,ชลบุรี,ตราด,ระยอง,ชุมพร,ระนองและกรุงเทพฯ
 
พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด
สุโขทัย,กำแพงเพชร,นครสวรรค์,อุทัยธานี,ชัยนาท,เพชรบูรณ์,ชัยภูมิ,บุรีรัมย์,นครราชสีมา,
สุราษฎร์ธานีและพังงา
 
3) พื้นที่เฝ้าระวังสูง 38 จังหวัด
จังหวัดที่เหลือของประเทศไทยจำนวน 38 จังหวัด
 
4 ) พื้นที่เฝ้าระวัง 0 จังหวัด
 
มาตรการดำเนินการพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการ และจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน

ทั้งนี้ขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด โดยการ มีไม่อยู่รวมกันในที่แออัด เว้นระยะห่างทุกครั้ง สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกสถานที่ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ และเช็คคนรอบข้างอยู่สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 

 

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิงข้อมูลจาก : ศูนย์ข้อมูล COVID-19

Next Post

รมช.กระทรวงมหาดไทย เปิดสะพานเบลีย์อ.เทพา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการสัญจรของประชาชน หลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

Sat Jan 2 , 2021
รมช.กระทรวงมหาดไทย เปิดสะพานเบลีย์อ.เทพา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการสัญจรของประชาชน หลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วันเสาร์ที่ 2/1/2564 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือสะพานเบลีย์ ณ บ้านควนเจดีย์ ตำบลลำไพล อำเภอเทพา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการสัญจรไปมาของประชาชน หลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวว่า การติดตั้งสะพานดังกล่าว เป็นสะพานเชื่อมบ้านควนเจดีย์ในหมู่ที่ 6 เป็นเส้นทางโรงเรียนเทพพิทยา ภานุมาศ – บ้านควนเจดีย์ และเป็นเส้นทางลัดในการเดินทางไปโรงเรียนเทพาฯ ออกสู่ถนนสายที่ 42 สายนาทวี-ลำไพล ประชาชนจะใช้สัญจรไปมา จากหมู่ที่ 6 บ้านควนเจดีย์ ตำบลลำไพล อำเภอเทพา ออกสู่ถนนสายหลัก ซึ่งจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเทพาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้สะพานเกิดการชำรุด ซึ่งมีประชาชนใช้สัญจรติดต่อบุคคลภายนอกประมาณ 200 กว่าครัวเรือน เมื่อได้รับการประสานจากพื้นที่ จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ประสานกับจังหวัดสงขลา ในการลงพื้นที่ดูสถานที่และแก้ปัญหาเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชน นำสะพานเบลีย์ […]
รมช.กระทรวงมหาดไทย เปิดสะพานเบลีย์อ.เทพา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการสัญจรของประชาชน หลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย