พบศพชายปริศนาชาวญี่ปุ่นใต้สะพานข้ามคลองร.1 พื้นที่อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (1ก.ย.63) พ.ต.ท.สุเทพ ฉุ้นประดับ สารวัตรสอบสวนสภ.บางกล่ำ จ.สงขลา พร้อมด้วยแพทย์เวร และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง)หาดใหญ่ เข้าตรวจสอบผู้เสียชีวิตตกจากสะพานสูงประมาณ 8-10 เมตร ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองร.1 พื้นที่บ้านบางหยี อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุประมาณ 60-65 ปี ทราบว่าเป็นคนสัญชาติญี่ปุ่น เข้ามาพำนักพักอาศัยอยู่ในพื้นที่หลายปีแล้ว จากการตรวจสอบตรงบนสะพานเหนือจุดที่พบศพ พบรองเท้าแตะและขวดเครื่องดื่มชูกำลังวางอยู่ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต ทางร้อยเวรจึงได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตอาจมีปัญหาส่วนตัวหรือป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จึงตัดสินใจมากระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งสารวัตรสอบสวนจะสอบปากคำเพิ่มเติมกับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเพื่อสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง และหลังจากเสร็จสิ้นการชันสูตรพลิกศพแล้ว หน่วยกู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปยังโรงพยาบาลบางกล่ำ ต่อไป HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่
ศูนย์ดำรงธรรมร่วมกับสภ.สงขลาปราบปรามหนี้นอกระบบเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด วันนี้ (1/9/2563) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมเชิญศิริ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และรายสมหวัง เรืองเพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบหมาย นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ให้เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบร่วมกับ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาและศปน.ภ.จว.สงขลา จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้มีอิทธิพล โดยเฉพาะบุคคล กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมให้ประชาชนกู้ยืมเงินโดยผิดกฎหมาย โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ โดยเฉพาะการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ถือเป็นโอกาสดีที่ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา ศปน.ภ.จว.สงขลา จะได้ร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้ข้อยุติและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป”บริการด้วยใจ คนไทยยิ้มได้” HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : ศูนย์ดำรงธรรมสงขลา
เทศบาลนครหาดใหญ่ปรับโฉมถนนเสน่หานุสรณ์ใหม่ โครงการก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจร วันที่ 1 ก.ย. 63 เทศบาลนครหาดใหญ่จัดประชุมเตรียมแผนทางเนื่องจากเดิมถนนบริเวณนี้เกิดความชำรุด เสียหาย ทำให้การจราจรยากลำบาก เทศบาลนครหาดใหญ่ โดยส่วนควบคุมการก่อสร้าง สำนักการช่าง ได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจรถนนเสน่หานุสรณ์ ตั้งแต่ถนนธรรมนูญวิถีถึงถนนประชาธิปัตย์ ใช้งบประมาณ 6,200,000 บาท ซึ่งในการดำเนินโครงการนั้นได้มีการประชุมด้านการดำเนินงานทั้งภายในและภายนอก โดยการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการโครงการดังกล่าว พบว่าประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเห็นด้วยกับการดำเนินโครงการนี้ โดยขั้นตอนการดำเนินโครงการฯ ประกอบด้วย 1) งานรื้อถอนพื้นตัวหนอนเดิมพร้อมขนเก็บ งานรื้อผิวถนนแอสฟัลท์คอนกรีตเดิม พร้อมบดอัดแน่น 2) งานก่อสร้างพื้นทางถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก หนา 0.20 เมตร 3) งานปูหินแกรนิต ขนาด 0.10 x 0.10 เมตร หนา 0.05 เมตร โดยจะทำการปิดการจราจรช่วงที่ดำเนินการรื้อถอนและก่อสร้างพื้นทางถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2563 – ถึงวันที่ 17 ตุลาคม […]
ความสำเร็จของกลุ่มรักษ์โตนสะตอหลัง กมธ.งบ’64 ลงมติเห็นด้วยตัดงบสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว จ.พัทลุง วันที่ 31 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 21.00 น. ที่ประชุม กมธ. พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2564 มีการพิจารณางบประมาณแผนงานบูรณาการ 2 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษา กมธ. ได้อภิปรายเสนอให้ตัดงบประมาณโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่ว จังหวัดพัทลุง และโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เนี่องจากประชาชนไม่ได้ประโยชน์และมีโครงการอื่นที่ต้องการ มีความจำเป็นมากกว่า ผลการลงมติ 22 เสียงเห็นด้วย 21 เสียงไม่เห็นด้วย 9 เสียงงดออกเสียง ผลสรุปงบประมาณ ปี 2564 จึงจำเป็นต้องตัดโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว จังหวัดพัทลุงออกไปก่อน จากในงบประมาณโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว จ.พัทลุง ในปี 2564 มีการตั้งงบประมาณในกรมชลประทาน ซึ่งเป็นของงบประมาณปี 2564 เป็นจำนวนเงิน 130 ล้านบาท […]
เตือนภัย !! อุทาหรณ์ของคนประมาท เปลี่ยนฟีล์มโทรศัพท์ตามงานเทศกาลต่างๆ เนื่องจากได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนึงโพสต์ข้อความพร้อมใบแจ้งความ โดยระบุว่า เตือนภัยงานอาหารสองทะเล สำหรับคนที่คิดจะเปลี่ยนฟีล์มโทรศัพท์ในงานรวมถึงคนที่ชอบพกเงินใส่ไว้ในเคสโทรศัพท์ตอนแรกไม่คิดจะไปแจ้งบันทึกประจำวันเลยค่ะ เเต่ด้วยกิริยาท่าทางของเจ้าของร้านที่ไม่ค่อยโอเค รวมถึงพี่เจ้าของร้านที่อยู่ติดกันได้ขอให้เจ้าของร้านฟีล์มนำเงินทั้งหมดออกมาให้เราได้เช็คปรากฎว่ามีธนบัตรใบ500ที่มีรอยพับอยู่จริงประมาณ 2-3 ใบ แต่ทางเจ้าของร้านติดฟิล์มได้ปฏิเสธในเชิงดูถูกเงินแค่ห้าร้อยบาท และพยายามใส่อารมณ์จะเดินหนีไม่อยากคุย ปล.1 พับใบ500(ใบใหม่เอี่ยมเพิ่งกดสดๆในวันนี้ก่อนไปงาน)เป็น2ทบใส่ในเคส มีพยานยืนยันว่าใส่ไว้ในเคสจริงๆ หน้าตู้เอทีเอ็ม ปล.2 ลืมไปเลยว่าเวลาเปลี่ยนฟีล์มต้องถอดเคสออก เลยยื่นโทรศัพท์ให้เขาไปเลยโดยไม่ได้ถอดเคส ปล.3 ร้านฟีล์มเป็นจุดเดียวที่มีการถอดเคส และการเปลี่ยนฟีล์มคนที่เปลี่ยนฟีล์มนั่งทำและแผงร้านค้าบังจนมองไม่เห็นขณะเปลี่ยนฟีล์ม ปล.4 กดเงิน900บาท ใช้ซื้อของ400บาท ส่วนใบ500เก็บใส่เคส บังเอิญว่า400บาทใช้หมดแล้วเราจะซื้อผลไม้เลยกะว่าจะใช้ใบ500ซื้อ มารู้ตัวตอนนี้ว่าเงินหายไปจากเคส ปล.5 มีสิทธิ์สงสัยในการหายไปของเงิน และภายในงานไม่มีกล้องวงจรปิด และนั่นเป็นจุดเดียวที่มีการถอดเคส จึงตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวัน ปล.6 โทษตัวเองที่ไม่รอบคอบ ทั้งนี้ไม่ได้เจาะจงว่าเขาเป็นคนนำเงินของไป เป็นแค่การสันนิษฐาน แต่ด้วยเหตุการณ์ทั้งหมดทุกอย่างเป็นเพียงเป็นอุทาหรณ์ของคนประมาทเท่านั้นจึงอยากขอเตือนให้มีสติตลอดเวลา HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : Thitirat Maneechay
สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 1 กันยายน 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย วันที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 11.00 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ได้เสนอข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) สำหรับรายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย มีดังนี้ สัญชาติฟิลิปปินส์ 3 ราย สัญชาติฝรั่งเศส 2 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ จากประเทศฟิลิปปินส์ 5 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (Alternative State Quarantine) HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายงานสถานการณ์โควิด-19 ได้ในแบบเรียลไทม์ […]