สาธารณสุขสงขลา ควบคุมวัดที่มีการตั้งศพบำเพ็ญกุศล หลังเจอคลัสเตอร์ญาติต่างจังหวัดติดโควิด-19 มาร่วมงานศพ สาธารณสุขอำเภอเมืองสงขลา เฝ้าระวังและควบคุมโรค วัดที่มีการตั้งศพบำเพ็ญกุศล หลังเจอคลัสเตอร์ญาติติดโควิด-19 จากต่างจังหวัดมาร่วมงานศพ และพักอาศัยในเมืองสงขลา ทำให้มีผู้ติดเชื้อ 5 ราย พบผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมด 27 ราย และยังไม่ได้รับรายงานมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม นายฐากร นาคแก้ว สาธารณสุขอำเภอเมืองสงขลา เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ เป็นการทำงานร่วมกัน ของเครือข่ายเฝ้าระวังและควบคุมโรค ระหว่างจังหวัด ทางสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองสงขลาได้รับข้อมูล มีผู้ป่วยจากต่างจังหวัด เข้ามาร่วมงานศพได้เข้าพักอาศัยที่บ้านญาติในอำเภอเมืองสงขลา  ทีมสอบสวนโรคก็ได้ดำเนินการสอบสวนโรคก็ได้พบว่า ได้เข้ามาพักอาศัย ที่บ้านญาติ 2 แห่งด้วยกัน ใน 2 แห่งนี้ มีผู้อยู่ร่วมบ้านทั้งหมด 10 ราย ก็ได้นำเข้าตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลทั้งหมดและก็พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 5 ราย ในเบื้องต้น  โดยทีมสาธารณสุขอำเภอเมืองสงขลา ก็ได้ดำเนินการสอบสวนโรคต่อ ก็พบผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมด 27 ราย ในวันนี้เรายังไม่ได้รับรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมจาก 5 ราย ที่ผ่านมาในส่วนของการดำเนินการที่ผ่านมา มีการเข้าร่วมกิจกรรมที่วัด ก็เป็นไปในลักษณะของเครือญาติที่มาร่วมงานไม่ได้ร่วมรับประทานอาหารกับแขกเหรื่อในงาน ก็พบว่ายังอยู่ที่กลุ่ม ของ 2 หลังคาเรือนนี้ ไม่มีผู้ป่วยเพิ่มเติม ในส่วนของวัดที่มีการจัดงานศพ พบว่า มีคนมาร่วมงานจำนวนน้อยมากและทางวัดก็ได้ปฏิบัติ ตามมาตรการที่ทางจังหวัดกำหนดไว้         อ้างอิง : สวท.สงขลา

ด่านตรวจพรุพ้อ สงขลา-พัทลุง จนท.คุมเข้ม ย้ำผู้เดินทางเข้าจังหวัดสงขลาลงทะเบียน สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในขณะนี้ทางจังหวัดสงขลายังคงมีมาตรการตั้งด่านตรวจระหว่างจังหวัดในทุกเขต นางสาวสุธิดา จิ้วจันทร์ ปลัดอำเภอรัตภูมิ ได้ปฎิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด- 19 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ,จนท.รพ.สต.ควนขัน,จนท.อบต.เขาพระ,สมาชิก อส. ผู้ใหญ่บ้าน/ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ท่าชะมวง และลูกจ้างทีมสมาร์ทตำบลควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา สำหรับจุดคัดกรองด่านตรวจทางหลวงพรุพ้อ เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดสงขลา กับ จังหวัดพัทลุง มีรถสัญจรเข้าออกสม่ำเสมอในบางเวลา ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถขนส่งสินค้า และรถยนต์ทั่วไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และกลุ่มแรงงานต่างด้าว โดยจะทำการตรวจสอบหนังสือรับรองความจำเป็นในการเดินทาง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การตรวจสอบไทม์ไลน์การเดินทางอย่างละเอียด ตลอดจนการสแกน QR Code ไทยชนะและหมอชนะก่อนเข้าสู่พื้นที่จังหวัดสงขลา อ้างอิง : ด่านตรวจทางหลวงพรุพ้อ

ชะลอการลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่านระบบหมอพร้อม เพื่อความเหมาะสมในการจัดสรรวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเรื่อง นายกรัฐมนตรีสั่งชะลอการลงทะเบียนทาง “หมอพร้อม” นั้น ขอประชาสัมพันธ์ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ได้แจ้งให้ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯ สมช.ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. ประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมควบคุมโรค โดยให้พิจารณาการปรับแผนการกระจายวัคซีนใหม่จากเดิมที่มีการจัดสรรวัคซีนตามโควตาการลงทะเบียนในแต่ละจังหวัด โดยปรับมาเป็นการจัดสรรให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  ซึ่งจำเป็นต้องนำหลักเกณฑ์อื่นมาพิจารณาในเรื่องของการกระจายวัคซีน เช่น การใช้เกณฑ์การติดเชื้อโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่มาจัดสรรวัคซีนให้เหมาะสมกับแผนการกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ โดยมอบให้ทาง ผอ.ศปก.ศบค. หารือเรื่องนี้ในที่ประชุม ตามความเหมาะสมและดำเนินการในรายละเอียด  โดยที่ประชุมฯ มีความเห็นพ้องต้องกันว่า ควรมีการปรับแผนการกระจายวัคซีนตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่มากกว่าการกระจายวัคซีนตามจำนวนการลงทะเบียน เนื่องจากบางจังหวัดนั้นมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไม่สูง มีผู้ติดเชื้อน้อย แต่มีผู้ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนค่อนข้างมาก ในขณะที่บางจังหวัดมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สูง มีผู้ติดเชื้อมาก แต่มีผู้ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนจำนวนน้อย  ดังนั้นที่ประชุมฯ จึงมีความเห็นให้ชะลอการลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม” ไปก่อน เพื่อความเหมาะสมในการจัดสรรวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบัน ทั้งนี้ประชาชนที่ได้ลงทะเบียนทางหมอพร้อมและได้รับการยืนยันวันเวลาและสถานที่แล้ว ยังคงสามารถรับการฉีดวัคซีนได้ตามกำหนดเวลานัดเดิมได้ทั้งหมด อ้างอิง : สำนักนายกรัฐมนตรี

ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศปลดล็อค ใบกระท่อม พ้นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิกความใน (5) ของวรรคหนึ่งของมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน (5) ประเภท 5 ยาเสพติดให้โทษที่มิได้เข้าอยู่ในประเภท 1 ถึงประเภท 4 เช่น กัญชา มาตรา 4 […]

นายกหาดใหญ่ เตรียมแผนล้างเมืองหาดใหญ่ สร้างความมั่นใจปลอดภัยจากโควิด-19 วันที่ 25 พ.ค. 64 พล.ต.ท. สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พลตรี สิรภพ ศุภวานิช ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 4 พร้อมด้วย นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายก อบจ.สงขลา และ คณะผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาลฯทั้ง 4 เขต ผู้อำนวยการสำนัก / ผู้อำนวยการกอง และหัวหน้าส่วนฯเทศบาลนครหาดใหญ่ ร่วมประชุมหารือเพื่อเตรียมการจัดกิจกรรมรวมพลัง ล้างเมืองหาดใหญ่ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างเทศบาลนครหาดใหญ่ กองพลพัฒนาที่ 4 อบจ.สงขลา และ อปท.ในพื้นที่ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และปลอดภัยจากโควิด – 19 อ้างอิง : เทศบาลนครหาดใหญ่

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย แจกอาหารแก่ปชช.ในพื้นที่อ.สะเดา วันที่ 26 พ.ค. 64 พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พร้อมแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมกิจกรรม “ครัวปันสุข กองทัพบก” ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอก 3 ณ บริเวณด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า กองทัพ ร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่คอยสกัดกั้น COVID-19 โดยเฉพาะแนวชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระลอกแรกจนถึง ระลอก 3 โดยเฉพาะปัจจุบันสถานการณ์ COVID-19 มีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์แปลกใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการคุมเข้มตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งเส้นทางปกติและช่องทางธรรมชาติที่มักจะมีการลักลอบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งอาจนำพาโรค COVID-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ ๆ เข้ามาในพื้นที่ได้ เนื่องจากผู้ที่ลักลอบเข้ามาไม่ได้ผ่านกระบวนการคัดกรองโรค พร้อมทั้งเร่งสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้ร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสร่วมกันสกัดกั้นอีกทางหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งกองกำลังในพื้นที่ชายแดนทั้งหมด เพิ่มความเข้มงวดกับการปฏิบัติงานตลอดแนวชายแดน นำกฎหมายสูงสุดในขอบเขตรับผิดชอบ สกัดกั้นขบวนการลักลอบนำคนเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายให้ได้เพื่อหยุดคลัสเตอร์โรคให้ได้ อ้างอิง : สวท.สงขลา