อบจ.สงขลา ปล่อยขบวนคาราวานรถผลไม้ ส่งมอบให้กับรพ.สนาม และบุคลากรทางการแพทย์ วันที่ 2 ส.ค. 64 นายไพเจน มากสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และคณะ ร่วมปล่อยขบวนคาราวานรถผลไม้ จากหน้าอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อนำผลผลิตทางการเกษตร ที่ได้รับซื้อมาจากเกษตรกรชาวสวนผลไม้ โดยทาง อบจ.สงขลา เร่งช่วยเหลือชาวสวนมังคุด และสวนเงาะที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ทำการลำเลียงผลผลิตทางการเกษตร เงาะ และมังคุด อย่างละ 1 ตัน ที่ได้คัดแยกและบรรจุใส่กล่อง และถุงพลาสติก นำลำเลียงขึ้นรถกระบะ จำนวน 5 คัน เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลสงขลา  มอบให้กับโรงทานวัดไทรงาม บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาลในอำเภอต่างๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในขณะนี้   ด้านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมังคุด และชาวสวนเงาะ ที่ประสบปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทาง อบจ.สงขลา ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้เร่งทำการรับซื้อมังคุด และเงาะ อย่างละ 1 ตัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้น และวันนี้ทาง อบจ.สงขลา ได้นำผลไม้จากเกษตรกรชาวสวน นำไปมอบให้กับศูนย์พักพิงให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสนาม ที่ปัจจุบันเป็นที่พักของผู้ป่วยโควิด-19 และอีกหลายที่รวมทั้งนำไปมอบ ณ โรงทานวัดไทรงาม ซึ่งทางวัดไทรงามได้จัดตั้งครัวประกอบอาหารให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และพี่น้องประชาชน และมอบให้เจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์ ณ โรงยิมเซียมเนเซียม ที่ทำการฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน บริเวณสนามติณสูลานนท์ นอกนั้นก็กระจายไปในพื้นที่ต่างๆ ทั้งอำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ อำเภอระโนด อำเภอหาดใหญ่   จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ได้รับผลระทบในหลายๆด้าน การขนส่งหยุดชะงัก ผลผลิตทางการเกษตรที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นเงาะหรือมังคุด ในขณะนี้ราคาตกต่ำมาก ทาง อบจ.สงขลา จึงได้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้น เพื่อให้สามารถที่จะระบาย ผลผลิตออกไปได้ในระดับหนึ่ง หลังจากนั้น นายไพเจน มากสุวรรณ์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ปล่อยขบวนรถคาราวานผลไม้ที่บรรทุกผลไม้ทั้งมังคุด และเงาะ จำนวน 5 คัน เพื่อแยกย้ายนำผลไม้ไปแจกจ่ายตามจุดต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ อ้างอิง : สวท.สงขลา

ปรับเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด ขยายมาตรการงดออกนอกเคหะสถานหลัง 21.00 – 04.00 น. เริ่ม 3 ส.ค. นี้ วันที่ 2 ส.ค. 64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ครั้งที่ 11/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) เพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด ขยายระยะเวลาการใช้มาตรการตามข้อกำหนดฉบับ 28 งดออกนอกเคหะสถานหลัง 21.00 น.- 04.00 น. เริ่ม 3 สิงหาคมนี้ นายกรัฐมนตรี แจ้งในที่ประชุมทราบว่า ระยะเวลา 1-2 เดือนข้างหน้าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ  ซึ่งทั่วโลกมีทิศทางการแพร่ระบาดรุนแรงและเพิ่มมากขึ้น ศบค. จึงเร่งดำเนินการในขณะนี้ ทั้งการยกระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรและปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด – 19 การใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit ให้กำหนดมาตรการกำกับดูแลอย่างรัดกุมและกำหนดแนวทางการในการบริหารจัดการตรวจ Antigen Test Kit รวมทั้งกำชับให้บริหารจัดการระบบการรักษาพยาบาลทุกระบบให้มีประสิทธิภาพและให้มีการประสานงานโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน จัดทำระบบ HI และ CI เพิ่มเติม ทั้งในพื้นที่กรุงเทพและต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน การยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคในสถานประกอบกิจการ ทั้งโรงงาน แคมป์แรงงาน บริษัท ในรูปแบบการป้องกันควบคุมโรคเฉพาะพื้นที่ หรือ Bubble and Seal โดยเฉพาะโรงงานใหญ่ๆ เพื่อชะลอกการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานให้มากที่สุด นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยอีกว่า วันพรุ่งนี้จะมีการรับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่รัฐบาลต่างประเทศส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประกอบด้วย  รัฐบาลสหรัฐอเมริกา มอบวัคซีนไฟเซอร์ ไบโอเอนเทค (Pfizer-BioNTech) จำนวน 1,503,450  โดส  ซึ่งมาถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร จำนวน 415,040 โดส รัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสมอบอุปกรณ์ทางแพทย์  ได้แก่ ชุดตรวจหาเชื้อโควิด – 19 แบบเร่งด่วน (Rapid Antigen Test) จำนวน 1,100,000 ล้านชุด และเครื่องช่วยหายใจ จำนวน 102 เครื่อง ซึ่งได้จัดส่งถึงไทยแล้ว เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม  และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ของรัฐบาลญี่ปุ่นได้มอบจำนวน 1,053,090 โดส เมื่อวันที่ 12  กรกฎาคมที่ผ่านมา สำหรับแผนการจัดหาและกระจายวัคซีนนั้น นายกรัฐมนตรียังยืนยันการจัดหาโควิด-19 ในเดือนสิงหาคม จำนวน 10 ล้านโดส ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้า กลุ่มโรงงานและกลุ่มประกันสังคมรวมทั้งคนต่างประเทศที่อยู่ประเทศไทย พร้อมทั้งได้เร่งให้มีการพิจารณาการขึ้นทะเบียนวัคซีนสปุ๊กนิก ขณะเดียวกันก็สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศเร่งเจรจาจัดหาวัคซีน เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อป้องกันไวรัสที่กลายพันธ์ ขณะนี้ได้เร่งการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เชื่อว่าจะสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุได้ครอบคลุมร้อยละ 50 ภายในเดือนสิงหาคมนี้  อ้างอิง : ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19

สงขลา พบผู้ป่วยโควิด 318 คน รวมผู้ป่วยโควิดระลอกเดือน เม.ย. สะสม 11,243 คน วันที่ 1 ส.ค. 64 จังหวัดสงขลาพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่ม 318 ราย มีรายละเอียดผู้ติดเชื้อ ดังนี้ 1.ผู้ป่วยจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ ต.หัวเขา อ.สิงหนครและสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน อ.สิงหนคร จำนวน 44 ราย (ต.หัวเขา รายใหม่ 17 ราย / สัมผัสผู้ป่วย อ.สิงหนคร 27 ราย) 2.ผู้ป่วยจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม 9 แห่ง (ศรีตรังโกลฟส์,ดิปป์โปรดักซ์,นิสซุย,แมนเอ,ยูโรเซรามิก,สงขลาแคนนิ่ง,สยามอินเตอร์,หลีเฮงซีฟู้ด,ไฮไท) และผู้สัมผัส รวมจำนวน 32 ราย (พนักงานรายใหม่ 14 ราย / ผู้สัมผัส 18 ราย) 3.ผู้ป่วยจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มพนักงานโรงงานโชติวัฒน์อุตสาหกรรม […]

นายจ้าง-ลูกจ้าง ม.33 พื้นที่ 10 จังหวัด 9 กิจการ เฮ!! ประกันสังคมโอนเงินเข้าพร้อมเพย์ 4 ส.ค.นี้ วันที่ 30 ก.ค. 64 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิด-19ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ใน 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ สาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร นั้นว่าท่านนายกรัฐมนตรี […]

แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจเฝ้าระวังจุดอับ จุดเสี่ยง ถนนเส้นทางหลัก-ทางรองในเมืองหาดใหญ่ วันที่ 1 ส.ค. 64 พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคง หารือแนวทาง มอบนโยบายแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ พร้อมตรวจเยี่ยมระบบการทำงาน ของศูนย์ควบคุมสั่งการระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ที่เป็นอีกหนึ่งโครงการในการติดตั้งระบบความปลอดภัยทั่วเขตเมืองด้วยระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบสาเหตุของสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างมีเป้าหมาย ตลอดจนเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจประจำจุดตรวจ ด่านตรวจ เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องประสานการทำงานร่วมกันทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และกำลังภาคประชาชนโดยสมาชิกเครือข่ายวิทยุเครื่องแดง เข้ามามีส่วนร่วมทำพื้นที่ให้มีความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เนื่องจากมีการระบาดของเชื้ออย่างต่อเนื่องในพื้นที่ พร้อมกับเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ พบเห็นสิ่งผิดปกติ กลุ่มบุคคลต้องสงสัย หรือพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในที่ประชุมแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ให้นโยบายเพิ่มเติมจากแผนที่มีอยู่ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในมาตรการรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ เนื่องจากปรากฎข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ยังคงมีความพยายามก่อเหตุในพื้นที่ […]

จ.สงขลา พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม หลังพบระบาดในชุมชนต.หัวเขา อ.สิงหนครสั่งล็อกดาวน์แล้ว 14 วัน เตรียมหาเชื้อเชิงรุก  วันที่ 1 ส.ค. 64ความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ที่จังหวัดสงขลา ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยพบผู้ติดเชื้อ 324 คน และเสียชีวิต 1 คน เป็นชายอายุ 90 ปี มีโรคประจำตัวเป็นความดัน เบาหวาน และไตเสื่อม ส่งผลให้ภาพรวมมีผู้ติดเชื้อในจังหวัดสะสม 10,601 คน ส่วนคลัสเตอร์เรือนจำสะสม 1,101 คน และเสียชีวิตสะสมรวม 63 คน สำหรับผู้ติดเชื้อกลุ่มหลักในวันนี้ มาจากการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร และผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน รวม 74 คน โดยเฉพาะในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลหัวเขา พบการแพร่ระบาดจำนวนมากนั้น ได้การสั่งล็อกดาวน์ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงควบคุมพื้นที่แล้ว  โดยจะปิดชุมชนต่อเนื่อง 14 วัน และในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีการการจัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจชาวบ้านกลุ่มเสี่ยงในชุมชนทั้งหมด หากพบเชื้อแต่มีอาการไม่รุนแรง จะให้รักษาตัวที่บ้าน โดยจะมีการส่งยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นมาให้ในแต่ละวัน ส่วนคนที่อาการหนักจะส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล และคนที่ไม่พบว่าติดเชื้อจะมีการฉีดวัคซีนให้ก่อน ทำการพิจารณาเปิดหมู่บ้านอีกครั้ง นอกจากนี้ภาพรวมในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมพบว่า มีโรงที่พบผู้ติดเชื้อโควิดจำนวน 26 แห่ง รวมมากกว่า 2,000 คน โดยมีการสั่งปิดโรงงานแบบ 100% จำนวน 6 แห่ง และสั่งให้ดำเนินมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล 9 แห่ง พร้อมกับให้แต่ละโรงงานเตรียมพร้อมมาตรการแฟคทอรี่ ควอรันทีน จัดที่พักให้กับพนักงาน เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการได้ต่อ และแยกไม่ให้พนักงานออกไปสัมผัสกับชุมชนภายนอก ส่วนโรงงานที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด ก็ให้ดำเนินการป้องกันอย่างเข้มงวดต่อไป ด้านนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ระบุว่า มาตรการต่างๆ ที่ออกมาบังคับใช้ในการป้องกันโควิด-19 ที่จังหวัดสงขลาจะหมดลงในวันที่ 2 ส.ค. นี้ ซึ่งใน 1-2 วันนี้ ทางกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาจะประชุมหารือกันอีกครั้ง และคาดว่าน่าจะมีการขยายเวลาประกาศบังคับใช้กฎระเบียบต่างๆ ที่ออกมาแล้วก่อนหน้านี้ ออกไปอีก 14 วัน จนถึงกลางเดือนสิงหาคมนี้  ทั้งมาตรการเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 3 ทุ่ม-ตี 4 รวมทั้งการเพิ่มความเข้มงวดในการเดินทางเข้าออก จ.สงขลา โดยเฉพาะเส้นทางที่เชื่อมต่อกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงสีแดงเข้มด้วยกัน และมาตรการที่เกี่ยวข้องการปิดกิจการ การประกอบอาชีพบางอย่าง ปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ การรวมกลุ่มคนตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป การจัดเลี้ยง คาดว่า ต้องสั่งปิดต่อเนื่องไปอีก โดยจะมีการประกาศในรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 2 ส.ค. นี้ อ้างอิง : สวท.สงขลา