รองนายกรัฐมนตรี (ประวิตร) ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมและการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณปากแม่น้ำเทพ วันที่ 7 พ.ย. 64 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากปัญหาน้ำท่วม น้ำหลาก และปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง บริเวณปากแม่น้ำเทพา ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่มาหลายสิบปี โอกาสนี้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้เสนอพิจารณาการดำเนินงานก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะริมตลิ่งแม่น้ำเทพา เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ลดปัญหาอุทกภัย ซึ่งหากได้รับการพิจารณาเห็นชอบ จะดำเนินงานระยะแรกในปีงบประมาณ 2565 โดยก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะพังทลายของตลิ่ง บริเวณบ้านคลองประดู่ หมู่ที่ 4 ความยาว 500 เมตร วงเงินไม่เกิน 90 ล้านบาท และจัดทำคำของบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2568 วงเงินไม่เกิน 270 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและสามารถแก้ไขปัญหาได้ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้กำชับให้ สทนช. เป็นเจ้าภาพหลักบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยบริเวณลุ่มน้ำเทพาอย่างเป็นระบบ รวมถึงประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานให้ประชาชนได้รับรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการยอมรับและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำได้ตรงกับความต้องการของพื้นที่ โดยที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.สงขลา มักประสบปัญหาน้ำท่วมในบริเวณพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำ และเกิดการรุกตัวของน้ำเค็มเข้ามาในทะเลสาบสงขลา จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อ้างอิง : สวท.สงขลา

พื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม และน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ ช่วงวันที่ 7 – 13 พ.ย.นี้ วันที่ 7 พ.ย. 64  กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ออกประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม และน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ ฉบับที่ 27 หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ช่วงวันที่ 7 – 13 พฤศจิกายนบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก จากนั้นจะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ เบื้องต้น  กอนช.ได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (ONE MAP) ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบมีพื้นที่เฝ้าระวังช่วงวันที่ 7 – 13 พฤศจิกายน คือ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากบริเวณที่ลาดเชิงเขาในจังหวัด นครศรีธรรมราช สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส // เฝ้าระวังระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 แล้วมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง และภูเก็ต  พร้อมเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำตาปี อำเภอพระแสง อำเภอพุนพิน และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี , บริเวณคลองท่าดี อำเภอลานสกา อำเภอพระพรหม และอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และคลองชะอวด ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช , ทะเลสาบสงขลา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา , แม่น้ำปัตตานี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา และอำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี และแม่น้ำโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส อ้างอิง : กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ  

อบจ.สงขลา เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังชุมชนหลักว้า ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ วันที่ 4 พ.ย. 64 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา รับมอบหมายจากนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ชุมชนหลักว้า ซอยท่าเคียน 2 หมู่ 1 ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายอาซีด หลำเบ็นสะ สจ.เขต 9 โดยมี สท.เขต จากเทศบาลเมืองควนลัง และ เจ้าหน้าที่กองช่าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา ร่วมลงสำรวจพื้นที่ในครั้งนี้ได้ด้วย                 ชุมชนหลักว้า เป็นพื้นที่สภาพดั้งเดิมที่ถูกน้ำท่วมขัง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำออกไปได้ จึงได้แจ้งขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากทาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อทำการสูบน้ำออกไปจากชุมชนก่อน เป็นเบื้องต้น     อย่างไรก็ตาม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาจะมีการประสานกับทางเทศบาลเมืองควนลังอีกครั้ง เพื่อนำเครื่องสูบน้ำลงพื้นช่วยเหลือชุมชนต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้หาแนวทางร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันช่วยเหลือชุมชนหลักว้า ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ ในการป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังอีกต่อไป อ้างอิง : องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา

นิพนธ์ รมช.มหาดไทย ผนวก ไพเจน ว่าที่นายก อบจ.สงขลา ร่วมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังทางเดินลอดอุโมงค์สวนสาธารณะ พร้อมห่วง นร. จอดรถจยย.หน้าโรงเรียนริมถนน  เมื่อวานนี้ 22 มกราคม 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายไพเจน มากสุวรรณ์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เข้าตรวจความเรียบร้อยทางเดินอุโมงค์เชื่อม ระหว่างสนามกีฬาติณสูลานนท์ และสวนสาธารณะเมืองสงขลา เพื่อเตรียมเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยมีนายสุรกิจ กาญจนะ รักษาการผู้อำนวยการกองช่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ พร้อมแจงรายละเอียด และตอบข้อซักถามต่างๆ         ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องปัญหาของทางเดินลอดอุโมงค์ ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา จะมีปัญหาและอุปสรรคอย่างไรในส่วนของน้ำท่วมขังหรือไม่ และทาง อบจ.สงขลามีแนวทางในการเตรียมรองรับปัญหาเหล่านี้อย่างไร พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ อบจ. ให้ช่วยกันดูแลรักษาสวนสาธารณะเมืองสงขลา โดยเฉพาะการดูแลสนามหญ้าเทียม และการรักษาต้นไม้ ให้ดูสวยงามอยู่ตลอดเวลา          นอกจากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังมีความกังวลในเรื่องรถจักรยานยนต์ของนักเรียนโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา ที่นำมาจอดบนผิวจราจรตลอดบริเวณหน้าโรงเรียนนั้น อาจเสี่ยงจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และยังเป็นการกีดขวางทางจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนอีกด้วย  ทั้งนี้ ได้กำชับผู้อำนวยการโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา ให้ทำหนังสือถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อขอความอนุเคราะห์ ในการขอใช้พื้นที่ตรงลานเอนกประสงค์ ในบริเวณสวนสาธารณะเมืองสงขลา ไว้สำหรับเป็นที่จอดรถจักรยานยนต์ของนักเรียน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพิ่มความปลอดภัยและยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอีกด้วย HATYAITODAYNEWS

พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีทรงพระราชทานยาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนนจากสถานการณ์อุทกภัย วันนี้ (20 ม.ค.64) ณ โรงเก็บอากาศยาน กองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยาชุดสำหรับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา  ตามที่มีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และพื้นที่ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย มีประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อน รวมจำนวนทั้งสิน 41,083 ครัวเรือน   โดยสำหรับยาชุดพระราชทานดังกล่าว ประกอบด้วย ยาแบ่งเป็น 5 หมวด ได้แก่ ยารักษาโรค ผิวหนัง ยาโรคตา ยาสำหรับโรคระบบทางเดินอาหาร ยาแก้ปวด และชุดทำแผล ซึ่งเหมาะสมสำหรับการเจ็บป่วยในภาวะน้ำท่วม ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของประชาชน และมีพระราชประสงค์ที่จะบรรเทาความทุกข์ยากให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการ ในพระองค์ โดยกองแพทย์หลวงดำเนินการจัดยาชุดพระราชทานสำหรับผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 30,662 ชุด สำหรับพระราชทานแก่หน่วยงานในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จำนวน 10,000 ชุด  HATYAITODAYNEWS

เตือนแล้ว ! สองแม่ลูกขับรถฝ่าทางน้ำท่วมจมทั้งคู่ พลเมืองดีช่วยแม่ได้ จนท.เร่งหาตัวลูกชายคาดน้ำพัดสูญหาย วันนี้ 8/1/2564 เวลาประมาณ 9.30 เกิดสองแม่ลูกขับรถจักรยายนต์ฝ่าน้ำที่ท่วมถนนและไหลเชี่ยว บนเส้นทางสายตูหยง-ตลาดเทพา พื้นที่บ้านโคกต้นพรวน หมู่6 ต.ปากบาง อ.เทพา และถูกน้ำซัดรถจักรยานยนต์ล้มร่างทั้งสองคนไหลไปตามน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ยังคงเร่งค้นหาร่างของชายหนุ่มที่ถูกน้ำพัดสูญหายในพื้นที่อ.เทพา จ.สงขลา ขณะขับรถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวและถูกน้ำซัดแต่ยังไร้วี่แวว โดยพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้กระโดดน้ำลงไปช่วยดึงแม่ขึ้นมาได้ ขณะนี้แม่และพลเมืองดีปลอดภัยแล้วและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเทพา ในส่วนของของผู้บาดเจ็บคือ นางมารีแย เจะสนิ อายุ 50 ปีที่ถูกน้ำซัด และนายธัญญา มาลัยกุล อายุ 51 ปี พลเมืองดีที่เสี่ยงตายลงไปช่วย ส่วน นายซุลกิฟลี ดอเลาะ อายุ 28 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่4 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ที่สูญหายจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด ขณะนี้ยังไม่พบร่าง ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ใช้เรือและเจสกีออกตระเวนค้นหาร่างของ นายซุลกิฟลีตามจุดที่คาดว่าจะถูกน้ำพัดไป […]