คนร้ายประกบยิงทหารพรานเสียชีวิตบนถนนที่รามัน จ.ยะลา เมื่อเช้านี้ 08/7/63 เวลา 08.45 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดและขนาดยิง อส.ทพ.นิกร สมบัติทอง อายุ 43 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เสียชีวิตในทันทีบริเวณหน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ที่ 41 บนถนนสายโกตาบารู-ทุ่งยางแดง ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า อส.ทพ.นิกร สมบัติทอง ได้ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชา ออกไปทำธุระส่วนตัวในพื้นที่ โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำธุระส่วนตัวเพียงคนเดียว หลังจากทำธุระเสร็จก็ได้ขับรถกลับเข้าค่าย ระหว่างทางกลับ คนร้ายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนตามหลังมา ก่อนที่จะประกบยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.จำนวน 6 นัด กระสุนถูกบริเวณศีรษะและแผ่นหลัง ก่อนที่จะล้มลงและเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะเรียกสอบปากคำผู้ใกล้ชิดอีกครั้ง […]
ข่าวหาดใหญ่วันนี้
คลอง ร.1 หาดใหญ่ ยังคงปรับปรุงขุดขยายความกว้างของคลองระบายน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัยหากเกิดฝนตกหนัก เนื่องจากกรมชลประทาน ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติตามแผนพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยระยะเร่งด่วน ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2543 โดยจัดทำโครงการเพื่อบรรเทาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต คือ โครงการขุดลอกคลองธรรมชาตินอกตัวเมืองหาดใหญ่ และโครงการขุดคลองระบายน้ำสายใหม่ จำนวน 5 สาย (คลอง ร.1, ร.3, ร.4, ร.5, ร.6) พร้อมอาคารประกอบ เพื่อผันน้ำไม่ให้ผ่านตัวเมืองจนเกินความสามารถในการรองรับน้ำของระบบป้องกันของเทศบาลนครหาดใหญ่ 1. ขุดคลองระบายน้ำ ร.1 เป็นคลองระบายน้ำสายหลักในการผันน้ำจากคลองอู่ตะเภาบริเวณบ้านหน้าควนลังอ้อมเมืองหาดใหญ่สู่ทะเลสาบสงขลาโดยตรง ความยาว 21.343 กม. สามารถระบายน้ำได้ 465 ลบ.ม./วินาที 2. ขุดคลองระบายน้ำ ร.3 เป็นคลองแบ่งน้ำเพื่อช่วยระบายน้ำจากคลองอู่ตะเภาตอนนอกเมืองหาดใหญ่ซึ่งช่วยบรรเทาอุทกภัยให้กับพื้นที่ริมฝั่งคลองอู่ตะเภาตอนล่าง ความยาว 8.200 กม.สามารถระบายน้ำได้ 195 ลบ.ม./วินาที 3. ขุดคลองระบายน้ำ ร.4 เป็นคลองแบ่งน้ำจากคลองเตยตามเขตทางรถไฟ สายหาดใหญ่-สงขลา […]
การเดินทาง “เข้าประเทศไทย”เฉพาะบุคคลตามข้อยกเว้น ย้ำต้องมีเอกสารและปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ผู้ที่จะเดินทางจะต้องขอหนังสือรับรองจากสถานทูตไทย หรือกงสุลไทย จากประเทศต้นทาง และเอกสารอื่นๆ ตามคำสั่ง ศบค. อย่างเคร่งครัด เครื่องบินพาณิชย์ สำหรับนักท่องเที่ยว ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทย เตรียมตัวก่อนเดินทาง Pre-departure 1. ตรวจสอบว่าเป็นบุคคลตามข้อยกเว้น 11 ประเภทหรือไม่* 2. เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามเงื่อนไขบุคคลแต่ละประเภท* 3. ติดต่อสถานทูตไทยหรือกงสุลไทยประจำประเทศต้นทาง เพื่อยื่นเอกสารที่ จำเป็น และปฏิบัติตามเงื่อนไขการจองตั๋วเครื่องบิน เพื่อขอหนังสือรับรอง Certificate of Entry (COE) ตรวจสอบข้อมูลบุคคลตามข้อยกเว้น 11 ประเภท คลิก >> https://www.caat.or.th/th/moicovid วันเดินทางยื่นเอกสาร ต่อสายการบิน 1. เอกสารแสดงตน เช่น Passport 2. หนังสือรับรอง Certificate of Entry (COE) […]
สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 แพทย์หญิง พรรณประภา ยงค์ตระกูล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ช่วยโฆษก ศบค. ได้รายงานว่าการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ยืนยันพบผู้ป่วยเพิ่ม 2 ราย โดยสรุปวันนี้ สถานการณ์ โควิด-19 วันที่ 8 ก.ค. 2563 ยังรักษาในโรงพยาบาล 65 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 3,197 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่พบว่าเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพัก State Quarantine ที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้ 2 ราย แบ่งเป็นดังนี้ อินเดีย 1 ราย เพศชาย อายุ 31 ปี […]
รองเลขาธิการ ศอ.บต. อธิบาย ความขัดแย้งกรณีโครงการเมืองต้นแบบ จะนะ สืบเนื่องจากวันที่ 7 กรกฏาคม ที่ผ่านมานั้น คุณ ชนธัญ แสงพุ่ม ในฐานะรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้พูดคุกับสุทธิชัย หยุ่น คอลัมนิสต์ ชื่อดัง ผ่านคำถามที่ยังเป็นข้อกังขาอยู่ว่าโครงการเมืองต้นแบบ จะนะ เป็นโครงการที่มีประโยชน์หรือไม่ ต่อวิถีชาวอำเภอจะนะ โดยคุณสุทธิชัย หยุ่น ได้เปิดประเด็นขึ้นมาว่า ในตอนที่ ศอ.บต. ต้องการจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้นทำไมไม่มีการแจ้งชาวบ้านให้ทราบ เปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้แสดงความคิดเห็น ทางท่านรอง ศอ.บต. ได้อธิบายในจุดตรงนี้ว่า กระบวนการดังกล่าวทาง ศอ.บต. ให้ความสำคัญสูงสุด ตามมติ ครม. ที่ว่าจะต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจน สร้างความเข้าใจและมีส่วนร่วมกับประชาชน ซึ่งทาง ศอ.บต. ได้นำพาแกนนำในพื้นที่ ออกไปศึกษาดูงานยังสถานที่ได้มีการทำโครงการเมืองต้นแบบ อย่างเช่นท่าเรือในรัฐปีนัง ทำให้เราเห็นว่าวิถีชีวิตของชาวบ้านสามารถอยู่ร่วมกับท่าเรืออุตสาหกรรมได้ ไม่เพียงเท่านั้นสินค้ากว่าร้อยละ 60-70 % มีการนำเข้ามาจากประเทศไทยส่งผลไปยังท่าเรือปีนัง นับมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้นการสร้างโครงการเมืองต้นแบบ […]
ท้องทะเลไทยสูญเสีย วาฬหัวทุยแคระ เนื่องจากถูกคลื่นซัดเกยตื้นที่หาดเกาะลันตา จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา ชาวประมงพบวาฬ ลอยเกยตื้นบริเวณหาดคลองหิน ม.5 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จึงประสานเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอเกาะลันตาเข้าตรวจสอบ ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน เข้าตรวจสอบซากวาฬตายและลอยมาเกยชายหาดบ้านคลองหิน หมู่ 5 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นซากวาฬหัวทุยแคระ เพศผู้ วัดความยาวได้ 2.5 เมตร น้ำหนักกว่า 80 กก. จากซากเชื่อว่าเพิ่งตายได้ไม่เกิน 1-2 วัน ตามตัวไม่พบบาดแผล เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ นำซากวาฬดังกล่าว ไปผ่าตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายจากการชันสูตรผลพบว่าวาฬหัวทุยแคระตายเพราะอาจจะสำลักน้ำและจมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากสภาพลำตัวมีบาดแผล หัวใจมีเลือดคลั่ง ส่วนของระบบทางเดินหายใจมีฟองอากาศเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะทำการเก็บซากวาฬหัวทุยแคระเพื่อตรวจสอบต่อไป HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : ข่าวกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง