แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย (สะเดา) วางกำลังสกัดการลักลอบข้ามพรมแดน หวั่นนำเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เข้าสู่พื้นที่
วันที่ 31 พ.ค. 64 ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตรวจแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ในพื้นที่อำเภอสะเดา เน้นสอดส่องกลุ่มแรงงานที่ลักลอบข้ามพรมแดนโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ หวังสกัดกั้นการนำเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เข้าสู่พื้นที่
ลงพื้นที่ตรวจสอบแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ในพื้นที่ตำบลสำนักแต้ว ตำบลสำนักขาม และตำบลปาดังเบซาร์ รวม 7 จุด ทั้งที่เป็นแนวรั้วชายแดน และที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นช่องทางที่มีการลักลอบข้ามแดนจากฝั่งมาเลเซียเข้ามาของแรงงานไทย และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 และอาจเป็นจุดสุ่มเสี่ยงต่อการนำเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ข้ามฝั่งเข้ามาสู่ประเทศไทย
โดยทางประเทศมาเลเซียที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จนทำให้มีการล็อคดาวน์ประเทศอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1-14 มิถุนายน 2564 ส่งผลให้มีแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว ลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอสะเดา ซึ่งมีแนวชายแดนยาวประมาณ 85 กิโลเมตร และมักมีการลักลอบเข้ามาด้วยวิธีการทั้งใช้ไม้พาดรั้ว ตัดรั้วและขุดดินลอดเข้ามา แม้จะมีเจ้าหน้าที่จากทหาร ร้อย ร.5021 และ ตชด.4304 คอยออกลาดตระเวน สอดส่อง ป้องกันอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง
อ้างอิง : ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา