จ.สงขลา เลื่อนเปิดการเรียนการสอนรูปแบบ On-Site เป็นวันที่ 12 ก.ค. 64 ของโรงเรียนในแต่ละอำเภอ วันที่ 24 มิ.ย. 64 จ.สงขลา แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินความพร้อมสถานศึกษาก่อนเปิดการเรียนการสอนแบบ On-Site ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อประเมินความพร้อมภายใต้มาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ขณะที่ คณะะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา มีมติ ประกาศ “เลื่อนการเปิดการเรียนการสอนรูปแบบ On-Site” เป็นวันที่ 12 กรกฎาคม 2564  ทางด้านดร.พรศักดิ์ จินา ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ทางจังหวัดสงขลา ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินความพร้อมสถานศึกษาก่อนเปิดการเรียนการสอนแบบ On-Site ของสถานศึกษาในจังหวัดสงขลา ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในการร่วมกันพิจารณาเปิดการเรียนการสอนแบบ On-Site ของโรงเรียนในแต่ละอำเภอเพื่อประเมินความพร้อมภายใต้มาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรค  ขณะที่ คณะะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา มีมติให้ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ประกาศ “เลื่อนการเปิดการเรียนการสอนรูปแบบ On-Site” จากวันที่ 28 มิถุนายน 2564 เป็นวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 โดยให้สถานศึกษาทำการเรียนการสอนตามความเหมาะสม และความพร้อมของโรงเรียน นักเรียน  และผู้ปกครอง ซึ่งระหว่างนี้ให้คณะกรรมการฯ ลงพื้นที่ไปยังสถานศึกษาในการประเมินสถานการณ์ รวมทั้งติดตามการเตรียมความพร้อมของระบบ และขั้นตอนในการสร้างความปลอดภัยแก่คณะครู นักเรียน ตลอดจนบุคลากรทางการศึกษา ตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ และกรมควบคุมโรค  โดยเน้นมาตรการเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และลดการแพร่เชื้อโรคดังกล่าวอย่างเข้มข้น อาทิ การจัดให้มีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิ วัดไข้ และอาการป่วย , การสวมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา , การจัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อลดความแออัด , การจัดให้มีจุดในการล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ , การทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสที่มีการใช้ร่วมกันบ่อย เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องดนตรี ปุ่มกดลิฟต์ อุปกรณ์กีฬา ของเล่นเด็ก เป็นต้น อ้างอิง : สวท.สงขลา , สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสงขลา

สงขลา พบผู้ป่วยโควิด 216 คน รวมผู้ป่วยโควิดระลอกเดือน เม.ย. สะสม 3,372 คน วันที่ 24 มิ.ย. 64 จังหวัดสงขลาพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 216 ราย พบในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม 6 แห่ง จำนวน 112 คน ซึ่งเป็นผลจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างเร่งด่วน โดยผู้ติดเชื้อทุกคนได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลสนาม พ้อมทั้งเข้าสู่มาตรการกักกันตัวควบคุมโรค โดยมิได้มีการสัมผัสกับบุคคลภายนอกและชุมชน นอกจากนี้ทาง จ.สงขลา ยังได้นำหลัก Buble and Seal มาใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดทุกโรงงาน พร้อมทั้งได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขลงตรวจคัดกรองเชิงรุกผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในกลุ่มคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรมทุกพื้นที่ นอกจากนี้ยังพบในกลุ่มอื่นๆ อาทิ กลุ่มผู้ป่วยจากการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 67 ราย (ผู้ป่วย อ.เทพา , ปั๊มน้ำมันเอสโซ่สะกอม, ผู้ป่วย อ.จะนะ, ชุมชนเก้าเส้ง, ร่วมงานแต่งทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี, […]

ถ.สามชัย-หาดใหญ่ เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านทำป้ายโฆษณา ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย วันที่ 24 มิ.ย. 64 เมื่อเวลา 13.18 น. ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านทำป้าย อยู่ใกล้ห้างเคแอนด์เค ถนนสามชัย เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังเกิดเหตุรถดับเพลิงงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครหาดใหญ่ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง)หาดใหญ่ ไปตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงที่ร้านทำป้ายโฆษณาและกำลังไหม้ลุกลามไปยังห้องข้างเคียงอย่างรวดเร็ว โดยหน้าร้านดังกล่าวอยู่ฝั่งถนนสามชัยส่วนด้านหลังอยู่ติดกับถนนศุภสารรังสรรค์ ซอย5 เมื่อรถดับเพลิงมาถึงเจ้าหน้าที่ได้เร่งฉีดน้ำสกัดอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้ขยายเป็นวงกว้างลุกลามไปติดห้องที่อยู่ติดกันซึ่งมีโครงสร้างส่วนใหญ่ทำจากไม้ หลังผ่านไปประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัดแต่ยังมีกลุ่มควันจำนวนมาก และได้ฉีดน้ำเลี้ยงเอาไว้รอจนไฟดับสนิท จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆของร้านป้ายโฆษณาเสียหายเกือบทั้งหมดและบ้านที่อยู่ติดกันเป็นลักษณะแบ่งเป็นห้องๆก็ถูกไฟไหม้เสียหายอีก 3 ห้อง เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปความเสียหายได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง และเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย รายแรกถูกไฟลวกที่บริเวณเท้า จนท.กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย และอีกรายมีอาการสำลักควันไฟจนท.กู้ภัยได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนอาการดีขึ้นไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล อ้างอิง : มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่

จ.สงขลา เปิดระบบให้จองคิววัคซีนโควิด-19 สำหรับกลุ่ม 18-59 ปี วันที่ 24 มิ.ย. 64 ประชาชนทั่วไป อายุระหว่าง 18 – 59 ปี ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ ผ่าน 4 ช่องทาง 1. ผ่าน Web Application และ Line Official สงขลาวัคซีน2. โรงพยาบาลที่ท่านมีประวัติการรักษา3. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลใกล้บ้านท่าน4. ติดต่อ เจ้าหน้าที่ อสม. ใกล้บ้านท่าน ลงทะเบียนเพียง 1 ช่องทางแล้วรอการแจ้งยืนยันรายละเอียดการนัดหมายฉีดวัคซีนให้ทราบภายหลัง สำหรับผู้ที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม หรือยังไม่ได้แจ้งกับหน่วยบริการ และช่องทางอื่น ๆ ซึ่งอยู่ใน กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังอายุ 18 ปีขึ้นไป กลุ่มอายุ 18-59 […]

โรงแรมด่านสะเดา จ.สงขลา พร้อมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วน โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้แถลงเป้าหมายเปิดทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน หากเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ พร้อมก็จะทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น โดยนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว รวมทั้งคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ควรเดินทางกลับเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเช่นกัน รวมทั้งสถานที่ทำงาน และธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ ต้องกลับมาเปิดทำการได้ การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ควรไม่มีข้อห้าม หรือข้อบังคับแบบเหมารวมทั้งจังหวัด วันที่ 24 มิ.ย. 64 นางอารมย์ ลิ่ววัฒนะโชตินันท์ เจ้าของโรงแรมพีพี ด่านนอก ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า รายได้หลักของครอบครัวมาจากการทำธุรกิจโรงแรม ซึ่งเปิดให้บริการมากว่า 20 ปี โดยลูกค้าส่วนใหญ่ คือชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย มียอดการจองห้องพักเฉลี่ยวันละ 50 ห้อง สร้างรายได้หลักหมื่นต่อวัน แต่หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความรุนแรงมากขึ้น จนมีการออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวผ่านด่านศุลกากรสะเดา ทำให้ไม่มีลูกค้า จึงต้องปิดทำการชั่วคราวมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ส่วนรายได้รองที่มาจากการปล่อยให้เช่าพื้นที่ เพื่อเปิดร้านขายสินค้าบริเวณชั้น 1 ของโรงแรมก็หายไปด้วย เนื่องจากผู้เช่าไม่มีรายได้ จำเป็นต้องทิ้งร้าน หรือปิดกิจการด้วยเช่นกัน              การเปิดประเทศจึงเป็นความหวังของทั้งตนและผู้ประกอบการรายอื่นในพื้นที่ แต่ก็ยอมรับว่ายังมีความกังวล เพราะด่านสะเดาเป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นจุดเสี่ยง อีกทั้งตนและลูกๆ ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มีเพียงสามีเท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว เนื่องจากอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จึงอยากให้ภาครัฐจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ประกอบการและประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชายแดนได้ฉีดให้ครบเสียก่อน แล้วจึงค่อยเปิดประเทศ ซึ่งในขณะนี้ตนยังไม่มีแผนสำหรับการเปิดโรงแรมอีกครั้ง เนื่องจากปิดมาเป็นเวลานาน หากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อ และจัดสรรวัคซีนไว้สำหรับพนักงานที่มาจากต่างพื้นที่ด้วย อ้างอิง : สวท.สงขลา

ตำรวจภูธรสงขลา บังคับใช้กฎหมายเข้มงวดจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดได้ 37 คดี มีผู้ต้องหา 122 คน วันที่ 24 มิ.ย. 64 พลตำรวจตรี อาชาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้ ศบค.ส่วนกลาง จะมีมาตรการผ่อนคลายมากขึ้น แต่ยังคงให้แต่ละจังหวัดดำเนินมาตรการตามความเหมาะสมของสถานการณ์ในพื้นที่ โดยในส่วนของจังหวัดสงขลายังคงคุมเข้มในหลายมาตรการ เช่น เวลาในการเปิดให้รับประทานอาหารในร้าน การห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง การห้ามจำหน่ายจ่ายแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การห้ามรวมกลุ่ม หรือจัดเลี้ยงสังสรรค์ การสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เมื่อออกนอกเคหสถาน เป็นต้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้มีการดำเนินการบังคับใข้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เช่น การจับกุมผู้ลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ โดยได้มีการตั้งจุดตรวจ และตรวจค้น ผลการปฏิบัติงานช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีการจับกุมคนนำพา และคนให้ที่พักพิงในหลายคดี ส่วนการเข้มงวดกวดขันต่อผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ 37 คดี มีผู้ต้องหา 122 คน ฝ่ายปกครองจับกุมได้ 68 คดี มีผู้ต้องหา 220 คน รวม 105 คดี ผู้ต้องหา 342 คน ศาลพิพากษาแล้ว 47 คน ส่วนใหญ่เป็นคดีมั่วสุม ลักลอบเล่นการพนัน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การไม่สวมหน้ากากอนามัย การลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าว เป็นต้น ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามประกาศ และมาตรการควบคุมการระบาดของโรคของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาอย่างเคร่งครัด และต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไปในวงกว้าง หากพบมีการกระทำผิดกฎหมายหรือละเมิดคำสั่งประกาศจังหวัดในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีทันที อ้างอิง : ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา