เชิญชวนชาวใต้ร่วมช้อปชมชิมในงานมหกรรม “ONIE Expo 2020” 14-16 สิงหาคมนี้ ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่          งานมหกรรมวิชาการ ด้านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ระดับภาคใต้ หรือ ONIE Expo 2020 จัดขึ้นเป็นภูมิภาคแรกภายใต้แนวคิด “ช้อป ชม ชิม” ผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการในระดับพรีเมียมที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของชาว กศน. ในการขับเคลื่อนนโยบายในพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้ ยังจะได้ชมนิทรรศการวิชาการ กศน. การจัดแสดงความเป็นมาของเมืองสงขลาตั้งแต่อดีต และนำชม บริเวณจุด Check in เที่ยวสงขลาที่เดียวจบ “จำลองเมืองสงขลา” ตลอดจนการเสวนาเรื่องวัฒนธรรมท้องถิ่นสู่การพัฒนาอาชีพภาคใต้ การประกวด “กศน.รักษ์โลก” และการแสดงบนเวทีที่น่าสนใจอีกหลายรายการ รวมทั้งมาร่วม “ชิม” ที่สุดของอาหารปักษ์ใต้ ของดีประจำจังหวัด และของขึ้นชื่อจาก 14 จังหวัดภาคใต้ แบบเต็มอิ่ม และมีรสชาติที่ไม่เป็นสองรองใคร “ไฮไลท์ของงาน […]

สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 14 สิงหาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 17 ราย วันที่ 14 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ได้เสนอข้อมูล สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 17 ราย โดยเดินทางมาจาก สหรัฐอเมริกา 1 ราย อินเดีย 15 ราย ออสเตเรีย 1 ราย เป็นผู้เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine)       HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายงานสถานการณ์โควิด-19 ได้ในแบบเรียลไทม์

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งไล่ล่าคนร้าย หลังลอบวางระเบิดชุดคุ้มครองครูในพื้นที่ปัตตานี และนราธิวาส    จากกรณี เมื่อช่วงเช้าเมื่อวานนี้ (13/8/2563) เวลา 08.10 น. เกิดเหตุคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองครู ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทางรักษาความปลอดภัยแก่ครูบริเวณถนนสายชนบท บ้านปะกาลือสง หมู่ที่ 6 ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4305 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลหหนองจิก จังหวัดปัตตานีและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลัง คือ อาสาสมัครทหารพราน เอมลุคมาน หะยีแส อายุ 23 ปี   และในเวลาไล่เลี่ยกันในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส บริเวณหัวสะพานบ้านกาลิซา หมู่ที่ 2 ตำบลกาลิซา อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส คนร้ายได้ลอบวางระเบิด ชุดคุ้มครองครู แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 4508 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เสียชีวิต […]

สัมภาษณ์ อาจารย์ม.อ.หาดใหญ่ ผ่านมุมมองแนวคิดเศรษฐศาสตร์ สู่เศรษฐกิจหาดใหญ่-สงขลา นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมล่วงมาจนถึงปัจจุบัน หาดใหญ่-สงขลา ได้กลายสภาพเป็นเมืองที่อยู่ในสภาวะโคม่าทางเศรษฐกิจอย่างหนัก อย่างที่ทราบกันดีว่าหาดใหญ่-สงขลาบ้านเรานั้นอาศัยเม็ดเงินจากประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นเมืองน้ำหล่อเลี้ยงจนเคยทำให้หาดใหญ่-สงขลาเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ วันเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายๆอย่างไม่เหมือนเดิม เพียงช่วงเวลาเพียง 4 เดือนเศษ ผลกระทบดังกล่าวทำให้หาดใหญ่กลายเป็นเมืองที่ผู้ประกอบการต่างพูดไปทางเดียวกันว่า “ย่ำแย่เหลือเกิน” ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาทางสำนักข่าว Hatyai Today News ได้ลงพื้นที่เพื่อไปพูดคุยกับ ดร. สินาด ตรีวรรณไชย คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยเขตหาดใหญ่ ในเรื่องการนำหลักคิดทางเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเศรษฐกิจพื้นที่ หาดใหญ่-สงขลา ผ่าน 6 คำถามที่จะไขข้อสงสัยเรื่องราวเศรษฐกิจ หาดใหญ่-สงขลา 1.สภาวะเศรษฐกิจในพื้นที่หาดใหญ่ปัจจุบันตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ปัจจุบันจังหวัดสงขลานะครับเป็นจังหวัดที่มีรายได้รวมสูงสุดในภาคใต้ มีรายได้กว่า 240,000 ล้านบาทครับแต่ว่าถ้าเป็นรายได้ต่อหัวในภูเก็ตจะสูงกว่าครับ โดยโครงสร้างส่วนใหญ่ของสงขลา จะมีรายได้ผูกพันกับเรื่องของอุตสาหกรรมยางพาราแปรรูป แล้วก็อุตสาหกรรมอาหารทะเลกระป๋องและแช่เย็น เมื่อคิดเป็นตัวเลขซึ่งก็จะประมาณ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ในภาคของการเกษตรจะอยู่ที่ 14 เปอร์เซ็นต์ และการค้าขายคิดเป็นประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์นะครับ อย่างอื่นก็จะมีรวมๆกันไป จะพบว่าสิ่งที่สำคัญที่จังหวัดสงขลาต้องพึ่งพิงคือทรัพยากรทางธรรมชาติและทรัพยากรในเชิงของการเกษตร รวมถึงความเป็นเมืองเฉพาะของหาดใหญ่ที่มีความเป็นเมืองของการค้าขายอยู่แล้วครับ […]

ออกกฎเข้มคุมพระสงฆ์ กรณีการบิณทบาตไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย    สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้ออกหนังสือเรื่องขออนุมัตินำเรื่อง กรณีการบิณทบาตไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เสนอมหาเถรสมาคม (มส.) โดยหนังสือระบุว่า ตามที่มีข้อร้องเรียนผ่านทางระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่ชาติ (พศ.)    กรณีการบิณฑบาตของพระสงฆ์ที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เช่น การบิณฑบาตก่อนอรุณ การกลับวัดช้าเกินเวลาที่กำหนด รับบิณฑบาตมากเกินความจำเป็น หรือถ่ายเทอาหารให้บุคคลภายนอก นั่งหรือยืนปักหลักบิณทบาตบริเวณหน้าร้านค้าตลอดจนนำอาหารที่ได้รับมให้ร้านจำหน่ายต่อ รวมทั้งหวังแต่ลาภสักการะ เมื่อบิณทบาตแล้ว อาหาร ดอกไม้ ธูปเทียนที่ได้ไม่นำกลับวัด ทิ้งไว้ข้างทาง เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแก่สมณวิสัย ทำให้ผู้ที่ใส่บาตรและผู้ที่พบเห็นเสื่อมความศรัทธา เป็นหตุให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์  จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ขอเรียนว่า เพื่อเน้นการป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวและลดปัญหาข้อร้องเรียน จึงเห็นควรนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เพื่อโปรดทราบและพิจารณากำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดังนี้ 1. การออกบิณฑบาตของพระภิกษุสามเณรจะต้องออกบิณฑบาตเวลาได้รับอรุณ และไม่ควรเกินเวลา 08.00 น. 2. การบิณฑบาตโดยยืนหรือนั่งประจำที่ตามร้านขายอาหาร หรือบิณทบาตโดยเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆ นอกพื้นที่บิณทบาตแห่งวัดตนไม่สมควรกระทำ 3. การบิณทบาตด้วยการนั่งรับบาตรหรือนั่งในรถรับบาตรไม่สมควรกระทำ 4. สถานที่ที่เป็นแหล่งอโคจร […]

รณรงค์การปรับภูมิทัศน์โบราณสถานแหล่งท่องเที่ยวคู่บ้านคู่เมืองจ.สงขลา    สืบเนื่องจาก เฟซบุ๊กอาจารย์สืบสกุล ศรีสุข ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับ “ช่วงวันเวลานี้มีผู้คนมาเยือนสงขลากันมากเหลือเกินครับ..โดยเฉพาะ 14-16 ส.ค. นี้มีการมารวมกันของผู้คนทั่ง 77 จังหวัดของประเทศไทย มาค่วมกิจกรรม การศึกษานอกโรงเรียนการศึกษาตามอัธยาศัย และคิดว่าจะมีผู้ที่มาพื้นที่เมืองเก่ากันวันละหลายรอบเลยครับ ขยะเหล่านี้ละครับที่จะเป็นอุปสรรค์ ในหัวใจและอารมณ์ ที่จะหลงเสน่ห์และรักสงขลากันนะครับ ต้องให้โพสต์นี้เป็นตัวแทนร้องเสียงดังๆว่าช่วยด้วยครับ” จากประเด็นที่ทางอาจารย์โพสต์การจัดสถานท่องเที่ยวอย่างกำแพงเมืองสงขลาที่หัวเขาแดง อ.สิงหนคร ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีย้อนอดีตเมืองสงขลาที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันทางจังหวัดก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับชุมชน และสถานการที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะจังหวัดสงขลา มีความหลากหลายของพหุวัฒนธรรมในพื้นที่เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่เกิดความสนใจ และอยากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา เพิ่มมากขึ้นมาก แต่ในทางกลับกันภาพในการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทั้ง การปรับภูมิทัศน์ ที่สำหรับทิ้งขยะ ไม่มีการจัดระบบขอบเขตในการท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของสถานที่ จึงส่งผลให้ภาพลักษณ์ในการท่องเที่ยวยังไม่เป็นอย่างที่ประชาชนคาดหวังไว้ จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในความรับผิดชอบ เข้ามาจัดการแก้ไขปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามและ เอื้อเฟื้อให้เหมาะสมต่อการท่องเที่ยว     HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : อาจารย์สืบสกุล ศรีสุข