ชาวบ้านจะนะ 50 คนเดินทางเข้ายึดหน้าทำเนียบรัฐบาลยืนยันให้ยกเลิกนิคมอุตสาหกรรมจะนะ       วันนี้ 10 ธันวาคม 2563 เวลา 16:00 น ชาวบ้านจะนะจำนวน 50 คนได้เดินทางเข้าพื้นที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยืนยันเจตนารมณ์สื่อสารต่อสาธารณะให้ยกเลิกนิคมอุตสาหกรรมจะนะ การขึ้นกรุงเทพฯ ครั้งนี้​ ชาวจะนะตั้งใจจะสื่อสารกับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศในการยุติดำเนินการขั้นตอนอุตสาหกรรมจะนะ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการตั้งอ.จะนะ เป็นผังสีม่วงแห่งอุตสาหกรรม ตามที่รัฐบาลคสช.ผนวกกับTPI​  ซึ่งหลายครั้งที่ชาวบ้านฝ่านค้านออกมายื่นหนังสือและจัดเวที คัดค้านอุตสหกรรม  แต่ก็ไม่เป็นผล โครงการอุตสาหกรรมจะนะยังดำเนินต่อไป   ทางรัฐบาล ได้มีการตั้งตู้คอนเทนเนอร์และรั้วลวดหนาม กั้นสะพานชมัยมรุเชฐ ทำให้ชาวบ้านเข้าไม่ถึงจุดหมายที่วางไว้  ชาวบ้านจึงต้องปักหลักอยู่พื้นที่บริเวณนั้น  โปรดติดตามอย่างใกล้ชิดว่ารัฐบาลจะเข้าสลายกลุ่มชาวบ้านจะนะในครั้งนี้หรือไม่​ และอยากเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนมาเยี่ยมให้กำลังใจกับชาวบ้านจะนะ อย่างต่อเนื่องด้วย HATYAITODAYNEWS อ้างอิง :  นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

ขอเชิญร่วมประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน โครงการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 4309 (สามแยกทุ่งหวัง – สงขลา)       แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1  ขอเชิญร่วมการประชุมเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน โครงการพัฒนาทางหลวงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรและขนส่ง กิจกรรมปรับปรุงทางหลวงผ่านย่านชุมชน ทางหลวงหมายเลข 4309 ตอน สามแยกทุ่งหวัง – สงขลา ระหว่าง กม.3+750 – กม.7+679 ( ถนนสงขลา-นาทวี ช่วง บ้านชุมพอ – บ้านสวนตูล)     ซึ่งกิจกรรมในวันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2563 เวลา 13.00 น. – 16.00 น. ณ ห้องประชุมไอยรา ชั้น 5 สำนักงานเทศบาลเมืองเขารูปช้าง ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา     นายพิศาล ขวัญปลอด […]

หาดใหญ่ เกิดเหตุคนพลัดตกคลองระบายน้ำหน้าโรงแรมไฮซีซั่น ถนนราษฎร์ยินดี วันที่ 9 ธ.ค .63 เมื่อเวลา 22.46 น. เกิดเหตุบุคคลพลัดตกลงไปในคลองระบายน้ำหน้าโรงแรมไฮซีซั่น ถนนราษฎร์ยินดี เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นเพศชายวัยกลางคนอยู่ในอาการมึนเมาสุราพลัดตกลงไปในคลองและได้ส่งเสียงขอความช่วยเหลือ  และต่อมามีพลเมืองดี 2 คนเห็นเหตุการณ์ได้ลงไปช่วย แต่ไม่สามารถนำบุคคลดังกล่าวขึ้นมาด้านบนได้ ทำให้ติดอยู่ในคลองหมดทั้ง 3 คน เมื่อหน่วยกู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้ลงไปช่วยทั้ง 3 คนขึ้นมาด้านบนได้อย่างปลอดภัย ส่วนคนที่อยู่ในอาการมึนเมาทางญาติได้มารับตัวกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ขอเตือนประชาชนหากเดินทางไปเที่ยวขอให้ระมัดระวังตัวและไม่ไปอยู่เสี่ยงอันตรายไม่ว่าจะเป็น ลำคลอง สถานที่มืด เพราะอาจจะได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ อ้างอิง : มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่

สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 10 ธันวาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 18 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) วันที่ 10 ธันวาคม 2563 เวลา 11.00 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ได้เสนอข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 18 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) สำหรับรายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่  18 ราย มีดังนี้ เป็นคนไทย 8 ราย สัญชาติสวิส 2 ราย เนปาล 1 ราย อเมริกัน 3 ราย ฟิลิปปินส์ 1 ราย เคนยา 1 ราย […]

10 ธันวาคมวันรัฐธรรมนูญ วันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย        วันรัฐธรรมนูญถือเป็นวันที่ระลึกถึงโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของประเทศไทย โดยผลของการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475 ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎรจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปีเดียวกัน รัฐธรรมนูญไทยระบุว่าประเทศไทยมีรูปแบบรัฐเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (เขียนว่า ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) กำหนดให้มีการแบ่งแยกอำนาจระหว่างอำนาจนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับกำหนดให้ผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งและการแต่งตั้งแตกต่างกันไป เช่นเดียวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์    ซึ่งปัจจุบันรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560  นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ร่างขึ้นโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญในระหว่าง พ.ศ. 2557-2560 ภายหลังการรัฐประหารในประเทศโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร […]

การยางแห่งประเทศไทย เตรียมจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้ชาวสวนยางระยะที่ 2 ในเดือนธันวาคมนี้  ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีหลังมีมติเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 ว่า ส่งผลให้มีเกษตรกรได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการประกันรายได้ ระยะที่ 2 ที่แจ้งขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 และเป็นสวนยางที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 1,834,087 ราย รวมพื้นที่สวนยางกว่า 18 ล้านไร่ ซึ่งเกษตรกรแต่ละรายสามารถเข้าร่วมโครงการไม่เกิน 25 ไร่ ระยะเวลาของการประกันรายได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563-มีนาคม 2564 รวม 6 เดือน รัฐบาลได้กำหนดเงินค่าประกันรายได้ในแต่ละเดือน โดยราคายางแผ่นดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ 57 บาทต่อกิโลกรัม และราคายางก้อนถ้วย (DRC 50%) อยู่ที่ 23 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งตัวเลขการจ่ายเงินงวดที่ 1 ประจำเดือนตุลาคม 2563 และงวดที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 2563 กยท. จะดำเนินการจ่ายค่าชดเชยพร้อมกันทั้ง 2 งวดในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ จากนั้นจะจ่ายเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางเดือนละ 1 ครั้ง จนครบ 6 งวดตามโครงการในเดือนมีนาคม 2564 ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. โดยยืนยันว่าโครงการดังกล่าวเป็นการประกันรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนยางในกรณีที่รายได้เกษตรกร ลดลงจากรายได้ที่ควรจะได้รับ ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ยังเปิดเผยถึงสถานการณ์ราคายางในปัจจุบันว่า ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 65 บาทต่อกิโลกรัม ยางแผ่นดิบราคารเฉลี่ย 63.56 บาทต่อกิโลกรัม น้ำยางสดราคาเฉลี่ยประมาณ 56-57 บาทต่อกิโลกรัม ยางก้อนถ้วยราคาเฉลี่ย 21.50 บาทต่อกิโลกรัม ราคาปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ดี การประกันหรือการชดเชยรายได้ครั้งที่ 1 ที่ผ่านมาจะมีการชดเชยเพียงราคาน้ำยางสดและราคายางก้อนถ้วย ยางแผ่นดิบอยู่เกินราคาประกันที่ 60 บาท โดยมีปัจจัยบวกมาจากความต้องการของตลาดโลกเพิ่มมากขึ้นประกอบกับประเทศผู้ผลิตยางประสบปัญหาสภาพภูมิอากาศส่งผลให้ผลผลิตลดลง จึงส่งผลให้ราคายางราพราปรับตัวสูงขึ้น ความต้องการถุงมือยางปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้ราคายางพารา ยังคงมาตรการผลักดันส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ สนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตยาง ไม้ยาง สินเชื่อหมุนเวียน เป็นต้น ควบคู่กับการควบคุมปริมาณผลผลิตปรับพื้นที่ปลูกยางให้เหมาะสม คู่ขนานกับการประกันรายได้เกษตรกร   HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : การยางแห่งประเทศไทย