ชาวสงขลากว่า 12,000 คน ร่วมเดินขบวนใส่เสื้อเหลืองแสดงพลังจงรักภักดี-ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”   

  ชาวสงขลากว่า 12,000 คน ร่วมเดินขบวนใส่เสื้อเหลืองแสดงพลังจงรักภักดี-ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”      

   เมื่อวานนี้ (23 ต.ค. 63) เวลา 16.00 น. ประชาชนชาวสงขลา กว่า 12, 000 คน สวมใส่เสื้อสีเหลือง เดินขบวนรณรงค์แสดงความจงรักภักดี ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ มายังบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา พร้อมนำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ชูขึ้นเหนือศีรษะด้วยความรักและเทิดทูน พร้อมโบกสะบัดธงชาติไทย และร่วมกันกล่าวปฏิญาณตนแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของประเทศ จากนั้นร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อเป็นการแสดงออกรวมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งชาติ                        

ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันที่เกิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าบ้านเมืองขณะนี้กำลังประสบปัญหา “วิกฤตด้านความมั่นคง” ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ และมีกลุ่มการเคลื่อนไหวที่มีความพยายามเผยแพร่ข้อมูลและแนวความคิดที่ไม่ถูกต้องเพื่อยุยง ปลุกปั่น ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทั้งการปราศรัยจาบจ้วงให้ร้าย และการสื่อสารไปทางลบ โดยปราศจากข้อเท็จจริงที่แน่ชัดไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ในสังคมเพื่อให้หลงเชื่อ และนำส่งต่อลงในสื่อสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็วจนเกิดความเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อนในข้อมูล

โดยความรุนแรงของปัญหา นับวันยิ่งจะมีมากขึ้นอันจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และการสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นในประเทศนั้น ซึ่งไม่ได้เป็นหน้าที่ของประชาชนคนหนึ่งคนใด แต่เป็นเรื่องของคนทุกคนในชาติที่จะต้องช่วยกันรักษาแผ่นดินไทยให้กับอนุชนรุ่นหลัง อันจะนำไปสู่ความเป็นปึกแผ่นทำให้ชาติเกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืนในที่สุด ทั้งนี้ประชาชนคนสงขลาจึงขอแสดงพลังของคนสงขลาที่มีหัวใจเดียวกันภายใต้คำกล่าวที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ร่วมแสดงจุดยืนต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น  จากนั้นได้ร่วมกันกล่าวแสดงเจตนารมณ์ โดยมีใจความ 4 ข้อ 1. พวกเราขอประนามการกระทำที่จาบจ้วง ยุยง ปลุกปั่น การก้าวล่วงสถานบันพระมหากษัตริย์ทุกกรณี 2. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ที่กระทำความผิดและ ละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างเด็ดขาด 3. พวกเราชาวสงขลาจะไม่สนับสนุนหรือส่งเสริม ไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ที่กระทำการอันไม่ เหมาะสม จาบจ้วง ให้ร้ายกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และ 4 พวกเราชาวสงขลาจะร่วมกันปกป้องสถาบัน ขาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และสนับสนุน การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

  ชาวสงขลากว่า 12,000 คน ร่วมเดินขบวนใส่เสื้อเหลืองแสดงพลังจงรักภักดี-ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”       ชาวสงขลากว่า 12,000 คน ร่วมเดินขบวนใส่เสื้อเหลืองแสดงพลังจงรักภักดี-ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”       ชาวสงขลากว่า 12,000 คน ร่วมเดินขบวนใส่เสื้อเหลืองแสดงพลังจงรักภักดี-ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”       ชาวสงขลากว่า 12,000 คน ร่วมเดินขบวนใส่เสื้อเหลืองแสดงพลังจงรักภักดี-ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”       ชาวสงขลากว่า 12,000 คน ร่วมเดินขบวนใส่เสื้อเหลืองแสดงพลังจงรักภักดี-ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”       ชาวสงขลากว่า 12,000 คน ร่วมเดินขบวนใส่เสื้อเหลืองแสดงพลังจงรักภักดี-ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”       ชาวสงขลากว่า 12,000 คน ร่วมเดินขบวนใส่เสื้อเหลืองแสดงพลังจงรักภักดี-ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”    

 

 

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิงข้อมูลจาก : สนง.ประชาสัมพันธ์สงขลา

 

Next Post

ตื่นตาตื่นใจนักท่องเที่ยว-ปชช.สงขลา กับบรรยากาศพิธีโก้ยโห้ยหรือลุยไฟเทศกาลกินเจประจำปี 63

Sat Oct 24 , 2020
ตื่นตาตื่นใจนักท่องเที่ยว-ปชช.สงขลา กับบรรยากาศพิธีโก้ยโห้ยหรือลุยไฟเทศกาลกินเจประจำปี 63   ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ 24/10/63  บรรยากาศพิธีกรรมงานเทศกาลถือศีลกินเจ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563 ค่ำคืนวันที่ 23 ตุลาคม 2563 โดยคืนนี้มีพิธีเจริญมนต์ทำวัตรเย็น และพิธีลุยไฟ ซึ่งเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์อีกพิธีหนึ่งในประเพณีถือศีลกินผัก และในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ สำหรับพิธีโก้ยโห้ยหรือพิธีลุยไฟ ในเทศกาลถือศีลกินเจนั้น เชื่อกันว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ ชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ เพื่อให้สิ่งเลวร้ายไปกับเปลวไฟ โดยจะมีพระม้าทรงเป็นตัวแทนในการประกอบพิธีแทนประชาชนทั่วไป และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงอิทธิฤทธิ์ในการควบคุมความร้อนจากกองไฟ   HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : สนง.ประชาสัมพันธ์สงขลา Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
ตื่นตาตื่นใจนักท่องเที่ยว-ปชช.สงขลา กับบรรยากาศพิธีโก้ยโห้ยหรือลุยไฟเทศกาลกินเจประจำปี 63