ข่าวภาคใต้

โรงพยาบาลสมเด็จฯ นาทวี ขอรับบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากกสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา2019 ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้รพ.หลักและรพ.สนามที่จัดเตรียมไว้เต็มจนต้องมีการขยายรพ.เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ โดยทางโรงพยาบาลสมเด็จฯนาทวี มีจำนวนเตียงทั้งสิ้น 90 เตียง กำลังขออนุญาตขยับขยายขนาดของโรงพยาบาล เป็น 120 เตียง แต่วันนี้เรามีผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาล (ไม่นับโรงพยาบาลสนาม) ทั้งสิ้น 95 คน เรียกได้ว่าเกินจำนวนที่รพ.จะรับได้ และไม่นับผู้ป่วยปกติทั่วไปนอกจากนี้เรายังมีทั้งการผ่าตัดคลอดผู้ป่วยโควิด (Cesarian section) การฟอกไต (hemodialysis) ในผู้ป่วยโควิด ทางโรงพยาบาลสมเด็จฯนาทวีจึงอยากขอกำลังช่วยเหลือ ขอรับบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ อุปกรณ์การแพทย์ทั้ง ถุงมือ ชุด PPE ไซริงฉีดยา กำลังทุนทรัพย์ เพื่อเราจะสู้วิกฤติการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยกันสามารถบริจาคได้ที่บัญชี เงินบริจาค ร.พ.สมเด็จฯนาทวี ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 928-0-29569-1 อ้างอิง : โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ณ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา

สนามบินหาดใหญ่แจ้งผู้โดยสารเผื่อเวลาเร็วขึ้น 20 นาที ต้องขออนุญาตตามประกาศศบค.สงขลา วันที่ 4 ก.ค. 64 ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายมานิต บริพันธ์ นายอำเภอคลองหอยโข่ง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ อำนวยความสะดวกออกใบอนุญาตเดินทางออกนอกพื้นที่ ตามที่ ศบค.สงขลา กำหนด เพื่อบริการให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินบริเวณ ทางเข้าห้องพักของผู้โดยสารขาออกรอขึ้นเครื่อง สำหรับหลักฐานที่ใช้ขอเอกสารขอใบรับรองและขั้นตอนการขอเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดสงขลา ประกอบด้วย – การตรวจสอบบัตรประชาชนตัวจริง / พาสปอร์ต หรือเอกสารทางราชการได้รับรองระบุตัวตน – กรอกแบบฟอร์มเอกสารด้วยตัวเอง ระบุสถานที่ปลายทางให้ชัดเจน – ระบุเหตุผลความจำเป็นในการเดินทาง – เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารต่างๆ แล้วลงนามให้อนุญาตเดินทาง นายมานิต บริพันธ์ นายอำเภอคลองหอยโข่ง เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกในการอำนวยความสะดวกออกเอกสารขอใบรับรองการเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบิน เดินทางออกนอกจังหวัดสงขลา รูปแบบเอกสารขอใบรับรองการเดินทางข้ามจังหวัด เหมือนเอกสารการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือ รถโดยสารประจำทาง อาจจะทำให้ผู้โดยสารเสียเวลาในการเดินทาง แต่ยืนยันว่าผู้โดยสารไม่ตกเครื่องแน่นอน ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ใช้บริการด้วยสายการบินในการเดินทาง […]

เทศบาลเมืองเขารูปช้างร่วมกับอบจ.สงขลา ลงพื้นที่สำรวจคลองสำโรงเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย วันที่ 4 ก.ค. 64 เวลา 10.30 น. นายจักรธร สุริแสง นายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ผู้อำนวยการกองช่าง และเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองเขารูปช้าง ลงพื้นที่ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นำโดย นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และผู้อำนวยการสำนักการช่าง อบจ.สงขลาและเจ้าหน้าที่ บริเวณสะพานถาวรนิมิต หมู่ที่ 7 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณดังกล่าว เนื่องจากแนวคลองสำโรง มีช่องการระบายน้ำไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำในช่วงที่มีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วม จึงร่วมกันหาแนวทางในการเปิดช่องระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจากการปรึกษาหารือเบื้องต้นได้มีการแนะนำให้มีการก่อสร้างสะพาน เพราะปัจจุบันบริเวณดังกล่าวมีการฝังท่อเพียง 6 แถว ซึ่งหากเปลี่ยนเป็นสะพานน้ำจะไหลได้สะดวกมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ได้ลงพื้นที่สำรวจอีก 3 จุด บริเวณ คลองสำโรง ม.3 ซอยหอพักคุณหญิง ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำไหลมารวมกัน จากนั้นได้ลงพื้นที่บริเวณ สะพานคลองสำโรง (บริเวณเก้าเส้ง) […]

เดินทางเข้า-ออกจ.สงขลา ต้องสแกน QR CODE Songkhla Care ทุกครั้ง พร้อมกรอกแบบฟอร์มการเดินทาง วันที่ 4 ก.ค. 64 ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประกาศต้องสแกน QR CODE Songkhla Care ทุกครั้งเมื่อเดินทาง เข้า-ออก จังหวัดสงขลา หรือคลิกลิงค์ https://songkhla.psu.link/ เนื่องจากจังหวัดสงขลามีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ที่น่าเป็นห่วง และได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เชิงรุกอย่างเข้มข้น และมีการพบประชาชนโควิด-19 ตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มพนักงานโรงงานสงขลาแคนนิ่ง และตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม โดยทางจังหวัดสงขลากำหนดให้มีการกรอกแบบฟอร์มการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดทุกการเดินทางไม่ว่าจะเป็น เดินทางโดยเครื่องบิน เดินทางโดยรถไฟ เดินทางโดยรถสาธารณะ เดินทางโดยรถส่วนตัว และเดินทางโดยเรือ อ้างอิง : ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

ประชาชนทยอยใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งเฟส 3 คึกคัก 2 วันแรกยอดการใช้จ่าย 2,230 ล้านบาท เข้าสู่วันที่ 3 แล้วของการใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 พบว่า 2 วันแรก (1-2 ก.ค. 64) มียอดการใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นจำนวน 2,230 ล้านบาท ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่ยอดการลงทะเบียนพบว่ามีผู้ลงทะเบียนแล้วจำนวนกว่า 29 ล้านคน ยังคงเหลือสิทธิ์อีกจำนวนกว่า 1.9 ล้านสิทธิ์ โดยประชาชนผู้สนใจยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้โครงการอย่างต่อเนื่องจนกว่าสิทธิ์จะเต็ม 31 ล้านสิทธิ์ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com และแอปพลิเคชันเป๋าตัง ด้านนางสาวพิมพ์ชนก จันทร์ประเสริฐ ผู้ประกอบการร้านข้าวมันไก่ตอนเจ๊วา ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปิดเผยว่า ตลอดทั้งวันนี้มีลูกค้าทยอยใช้จ่ายผ่านโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น โดยทางร้านได้แนะนำลูกค้าบางรายถึงวิธีการใช้จ่ายผ่านแอปฯ เป๋าตังด้วย เนื่องจากแอปฯ เป๋าตังได้มีการปรับเวอร์ชันใหม่ ขณะเดียวกันทางร้านอยากให้ภาครัฐปรับมาตรการให้ลูกค้าสามารถนั่งทานที่ร้านได้แทน เนื่องจากลูกค้าหลักส่วนใหญ่สะดวกนั่งทานที่ร้านมากกว่าใส่กล่องกลับบ้าน สำหรับการใช้จ่ายโครงการฯ กระทรวงการคลังได้ย้ำว่า จะต้องเป็นการจ่ายเงินระหว่างประชาชนกับร้านค้าหรือผู้ให้บริการแบบพบหน้าเท่านั้น และจะต้องไม่มีกระบวนการใดๆ รองรับการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ที่เป็นการหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว เช่น การนำ QR Code ไปคัดลอกส่งต่อแก่บุคคลอื่นเพื่อสแกนจ่ายเงิน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้การใช้จ่ายเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และตรวจสอบความถูกต้องได้ นอกจากนี้ ในการสแกนจ่ายค่าสินค้าหรือบริการจะต้องระบุยอดเงินให้ตรงตามมูลค่าสินค้าหรือบริการนั้น เนื่องจากไม่สามารถทอนเงิน หรือรับแลกสินค้า หรือบริการคืนเป็นเงินสดได้ โดยประชาชนสามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 อ้างอิง : โครงการคนละครึ่ง