‘คนละครึ่งรอบ 3’ ปชช.แห่ใช้สิทธิ์เต็มภายในชั่วโมงครึ่งหลังเปิดลงทะเบียนเพิ่มอีก 7.2 แสนวันนี้  วันนี้ 19 พ.ย. 63 ภายหลังที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้กระทรวงการคลังเปิดให้ประชาชน ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเพิ่มเติมอีกครั้งในวันนี้ หรือวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 722,598 สิทธิ โดยเป็นการรวบรวมสิทธิคงเหลือจากผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิในรอบที่ผ่านมา โดยจะเปิดลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06:00 น. ซึ่งพบว่า เวลา 07.20 น. เหลือ 0 สิทธิแล้ว ดังนั้นผู้ที่ลงทะเบียนไม่ทันจะต้องรอการประกาศเพิ่มเติมจากกระทรวงการคลังอีกครั้งว่า จะเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งหรือไม่ อย่างไรก็ดี ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งมาก่อน และผู้ประสงค์จะใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งจะไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืนได้ สิทธิดังกล่าว เป็นการเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อให้ครอบคลุมผู้เข้าร่วมโครงการตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ 10 ล้านคน   HATYAITODAYNEWS อ้างอง/ภาพ : คนละครึ่ง

กกต.ประกาศ ไม่มีการจัดเลือกตั้ง อบจ.ล่วงหน้า เชิญชวนออกไปใช้สิทธิ 20 ธ.ค.นี้ เท่านั้น กกต.แจ้งว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่น กฎหมายไม่ได้บัญญัติให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้า และไม่มีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเหมือนกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะสามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. 2563 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. เพียงวันเดียวเท่านั้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งควรเตรียมความพร้อมก่อนการเลือกตั้ง 1. ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 25 วัน ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่เลือกตั้งหรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง และก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 15 วัน ให้ตรวจสอบรายชื่อจากเอกสารที่แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งมายังเจ้าบ้าน 2. การเพิ่มชื่อ ถอนชื่อ ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน หากพบว่าตนเองหรือผู้มีชื่อในทะเบียนบ้านของตนไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือเจ้าบ้านเห็นว่ามีชื่อบุคคลอื่นอยู่ในทะเบียนบ้านของตนโดยไม่ได้อาศัยอยู่จริง ให้ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นเพื่อขอเพิ่มชื่อ- ถอนชื่อ พร้อมนำสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นที่ทางราชการออกให้ไปแสดงด้วย หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมโทรแจ้งสายด่วน กกต. 1444 HATYAITODAYNEWS อ้างอง/ภาพ : […]

สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) วันที่ 18 พฤศจิกายน  2563 เวลา 11.00 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ได้เสนอข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) สำหรับรายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย มีดังนี้ รายละเอียดผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย เป็นคนไทย  1 ราย สัญชาติเบลเยียม  1 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย เบลเยียม 1 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้(Alternative State […]

การประปาส่วนภูมิภาค ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ      การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ตอบรับมติ ครม. ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อบรรเทาภาระค่าน้ำประปาอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน 2564 โดยให้ความช่วยเหลือค่าน้ำประปาในวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2564 จากเดิมที่สิ้นสุดไปเมื่อกันยายนที่ผ่านมา สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เคยลงทะเบียนกับ กปภ. แล้ว สามารถใช้สิทธิ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำอีก    สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่เคยลงทะเบียนกับ กปภ. สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ กปภ. ที่ https://payment.pwa.co.th/welfare-register/ หรือที่ กปภ. สำนักงานใหญ่ สำนักงาน กปภ.เขต 1 – 10 และ กปภ. ทั้ง 234 สาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – เดือนกันยายน 2564 (ใบแจ้งค่าน้ำประปาเดือนพฤศจิกายน 2563 – เดือนตุลาคม 2564) รวมเป็นระยะเวลา 12 เดือน โดยเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ลงทะเบียน สำหรับผู้มีบัตรฯ ที่ลงทะเบียนแล้ว สามารถชำระค่าน้ำประปาได้ที่สำนักงาน กปภ.สาขา และตัวแทนรับชำระค่าน้ำประปาของ กปภ. ทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการชำระค่าน้ำประปาในระบบออนไลน์ได้ตามปกติ หลังจากนั้น กรมบัญชีกลางจะนำเงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมมาจ่ายคืนแก่ผู้มีบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาภายใต้วงเงินที่กำหนดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ของเดือนถัดไป ซึ่งในกรณีใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PWA Contact Center โทร. 1662 หรือ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0-2109-2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0-2270-6400   HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : สวท.สงขลา

รองผู้ว่าราชการสงขลา เร่งหาแนวทางจัดการน้ำเสียชุมชนในเขตพื้นที่อำเภอหาดใหญ่อย่างยั่งยืนระยะ 20 ปี    เมื่อวานนี้ 17 พ.ย. 63 นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย นายพนมเทียน เส้งวั่น ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง นัดประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานการจัดการน้ำเสียชุมชนในเขตพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ประกอบด้วย เทศบาลนครหาดใหญ่ เทศบาลเมืองคลองแห เทศบาลเมืองคอหงส์ เทศบาลเมืองควนลัง และเทศบาลเมืองบ้านพรุ  ณ ที่ห้องประชุม CEO ศาลากลางจังหวัดสงขลา สำหรับจังหวัดสงขลา มีจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 140 แห่ง ประชากร 1,435,968 คน มีเทศบาล จำนวน 48 แห่ง คิดเป็นปริมาณน้ำเสีย 128,496 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน องค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 92 แห่ง คิดเป็นปริมาณน้ำเสีย 86,899 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน รวมปริมาณน้ำเสีย 215,395 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งจังหวัดสงขลามีระบบบำบัดน้ำเสีย 2 แห่ง ประกอบด้วย เทศบาลนครสงขลา และเทศบาลนครหาดใหญ่ สามารถบำบัดน้ำเสียได้วันละ 89,505 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42 ของปริมาณน้ำเสียทั้งหมด ซึ่งทาง กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้การจัดการน้ำเสียชุมชนเป็นภารกิจสำคัญตามนโยบายรัฐบาล (Agenda) โดยมีเป้าหมายบำบัดน้ำเสียจากชุมชนให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานน้ำทิ้งชุมชน ก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำสาธารณะ และมอบหมายให้องค์การจัดการน้ำเสีย ซึ่งโอนย้ายกิจการมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย มีอำนาจหน้าที่ในการจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียรวม และให้บริการรับบริหารหรือจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย จัดทำแผนบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 105 แห่ง และแผนปฏิบัติการด้านการจัดการน้ำเสียชุมชนระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อปรับปรุง ฟื้นฟู และบริหารจัดการระบบน้ำเสียชุมชนให้มีประสิทธิภาพ และมาตรฐาน     HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : สวท.สงขลา  

กรมการขนส่งทางบก เดินหน้ามาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนของปชช.ช่วงวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 19 – 22 พ.ย. 63        นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้กรมการขนส่งทางบกเตรียมความพร้อมและ จัดทำแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 19 – 22 พฤศจิกายน 2563 แบ่งการดำเนินการเป็น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการอำนวยความสะดวก ให้สำนักงานขนส่งและ เตรียมจัดหารถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทาง เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน และขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและจัดระเบียบภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง อาทิ การรักษาความสะอาดห้องน้ำ ชานชาลา ลานจอดรถ ตรวจสอบไฟฟ้าส่องสว่างให้เพียงพอ จัดระเบียบการเดินรถและการจราจรให้เหมาะสมคล่องตัว ในส่วนของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผู้ประกอบการขนส่งยังต้องเข้มงวดมากขึ้น มีมาตรการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด จัดทำมาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ภายในสถานีขนส่ง และบนรถโดยสาร […]